กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว!เชลวี่ย์รับตัดสินใจผิดรีบลาลิเวอร์พูล

กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว!เชลวี่ย์รับตัดสินใจผิดรีบลาลิเวอร์พูล จอนโจ้ เชลวี่ย์ มิดฟิลด์ นิวคาสเซิ่ล ก้มหน้ารับ คิดผิดที่ตัดสินใจบอกลา ลิเวอร์พูล ในปี 2013 พร้อมระบุ ตอนนั้นไม่แฮปปี้เท่าไหร่ที่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควร     จอนโจ้ เชลวี่ย์ กองกลาง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตนตัดสินใจผิดพลาดที่รีบย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ปี 2013     เชลวี่ย์ ย้ายจาก ชาร์ลตัน แอธเลติก ไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2010 ซึ่งในช่วงแรกๆ เขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจพอตัว แต่หลังจากนั้นเขาก็มีความสำคัญกับทีมน้อยลงจนสุดท้ายเจ้าตัวก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ สวอนซี ซิตี้ ในปี 2013 ก่อนที่จะมาซบ นิวคาสเซิ่ล ในอีก 3 ปีต่อมา     แข้งวัย 28 ปี เผยว่า "ตอนที่ผมย้ายออกจากทีมน่ะผมเพิ่งอายุได้ 21 ปีเท่านั้น […]


กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว!เชลวี่ย์รับตัดสินใจผิดรีบลาลิเวอร์พูล

กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว!เชลวี่ย์รับตัดสินใจผิดรีบลาลิเวอร์พูล

จอนโจ้ เชลวี่ย์ มิดฟิลด์ นิวคาสเซิ่ล ก้มหน้ารับ คิดผิดที่ตัดสินใจบอกลา ลิเวอร์พูล ในปี 2013 พร้อมระบุ ตอนนั้นไม่แฮปปี้เท่าไหร่ที่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควร

    จอนโจ้ เชลวี่ย์ กองกลาง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตนตัดสินใจผิดพลาดที่รีบย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ปี 2013

    เชลวี่ย์ ย้ายจาก ชาร์ลตัน แอธเลติก ไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2010 ซึ่งในช่วงแรกๆ เขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจพอตัว แต่หลังจากนั้นเขาก็มีความสำคัญกับทีมน้อยลงจนสุดท้ายเจ้าตัวก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ สวอนซี ซิตี้ ในปี 2013 ก่อนที่จะมาซบ นิวคาสเซิ่ล ในอีก 3 ปีต่อมา

    แข้งวัย 28 ปี เผยว่า "ตอนที่ผมย้ายออกจากทีมน่ะผมเพิ่งอายุได้ 21 ปีเท่านั้น ผมไม่คิดว่าคุณจะเจอนักเตะหลายคนที่ไปอยู่กับทีมในระดับนั้นตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี และย้ายออกจากทีมตอนอายุ 21 ปีหรอก ผมคิดว่ามันทำให้เกิดการพูดกันว่าผมเป็นคนที่มีนิสัยแบบไหน"

    "ผมไม่ใช่คนที่จะมีความสุขกับการที่ได้เล่นแค่ 1 หรือ 2 นัด แล้วหลุดออกจากทีมในเวลาต่อมา ผมอยากได้ลงเล่นทุกสัปดาห์ เมื่อคุณได้เล่นสัก 1 นัด แล้วจากนั้นไม่ได้เล่นเลยถึง 6 เกมแล้วน่ะ มันก็ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีส่วนร่วมกับทีม ผมไม่สนหรอกว่าคนอื่นๆ จะพูดว่ายังไง มันทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม"

    "ตอนนั้นผมอยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่พอมาลองย้อนคิดดูในตอนนี้แล้วนี่ผมควรจะอยู่กับทีมต่อไปรึเปล่าน่ะเหรอ ? ก็อาจจะน่ะนะ แม้ว่าอาจจะอยู่กับทีมเพิ่มอีกเพียง 1 หรือ 2 ปี เพียงเพื่อดูว่าสถานการณ์มันจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหนก็ตาม แต่ยังไงซะมันก็กลับไปแก้อะไรไม่ได้แล้ว"

    "พูดกันตามตรงนะ อาชีพการค้าแข้งของผมก็น่าจะดีกว่านี้เยอะ อย่าเข้าใจผิดนะ ผมจะยังรู้สึกว่าตัวเองมีอาชีพการค้าแข้งที่น่าประทับใจอยู่ดีพอผมแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่บางครั้งคุณจะมานั่งคิดว่า -ฉันสามารถไปให้สูงกว่านี้ได้ไหมนะ ? ฉันสามารถเล่นในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้รึเปล่า ?- แน่นอนว่าผมยังหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้เล่นเกมระดับนั้นอีก แต่ตอนนี้เวลามันก็ค่อยๆ หมดลงแล้ว พอนึกย้อนถึงอดีตแล้วมันก็ทำให้เกิดความคิดว่าคุณอาจจะตัดสินใจผิดพลาดไป"

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *