บาร์เซโลน่า ถึงขั้นพร้อมแถม คูตี้! เปรียบเทียบ ก็องเต้ vs บุสเก็ตส์

ข่าวการย้ายทีมของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางชาวบราซิเลียนของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน มันลุกลามไปถึงอนาคตของนักเตะคนอื่นๆ แล้ว หลังจากที่ มุนโด้ เดปอร์ติโบ สื่อชื่อดังของแคว้นกาตาลุนย่าบอกว่า บาร์เซโลน่า อาจจะยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับแถม คูตินโญ่ ให้กับ เชลซี เพื่อแลกกับการได้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มาร่วมทัพ

    ถึงแม้ว่า ก็องเต้ จะเป็นขวัญใจของแฟนบอล เชลซี หลายต่อหลายคน แต่เขาก็มักจะตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมอยู่เรื่อยๆ โดยที่จริงก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เรอัล มาดริด อยากได้เขาไปร่วมทัพด้วยซ้ำ ก่อนที่กระแสข่าวจะเงียบลงไป

    ทั้งนี้ มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจตัว ก็องเต้ เพราะปัจจุบันพวกเขามีนักเตะที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับตามธรรมชาติเพียงแค่คนเดียว นั่นคือ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็อายุ 31 ปี ขณะที่ แฟรงกี้ เดอ ยอง,อาร์ตูร์ และ อาร์ตูโร่ วิดัล ออกแนวมิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกมมากกว่า คำถามคือฟอร์มของทั้งคู่ต่างกันมากน้อยแค่ไหน ?

    – การแย่งบอล
    แน่นอนว่าสำหรับกองกลางตัวรับ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการแย่งบอลหรือตัดบอลให้ได้ก่อนที่จะไปถึงกองหลัง ถ้าพวกเขาทำได้ดีมันก็จะช่วยให้แนวรับไม่ต้องเจอกับภาระหนักหนาสาหัสมากเกินไป พร้อมกับทำให้ทีมเสี่ยงเสียประตูน้อยลงไปด้วย

    ทั้งนี้ ในฤดูกาลนี้ ก็องเต้ สามารถตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบในลีกได้ดีมากๆ จนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.1 ครั้งต่อเกม ขณะที่ บุสเก็ตส์ ทำได้ 1.4 ครั้งต่อนัดเท่านั้น แถมเขายังเคลียร์บอลพ้นพื้นที่อันตรายได้เฉลี่ย 1.3 ครั้งต่อเกม ขณะที่ บุสเก็ตส์ ทำได้เพียง 0.7 ครั้งต่อนัด

    อย่างไรก็ตาม ในด้านการพุ่งเสียบนั้น บุสเก็ตส์ ทำได้เหนือกว่า เพราะเขาเข้าสกัดโดนบอล 2.7 ครั้งต่อเกม ขณะที่ ก็องเต้ ทำได้ 2.1 ครั้งต่อนัด นอกจากนี้ ดาวเตะ บาร์เซโลน่า ก็ยังมีค่าเฉลี่ยเสียฟาวล์ในลีก 1.4 ครั้งต่อเกมด้วย น้อยกว่า ก็องเต้ ซึ่งอยู่ที่ 2.1 ครั้งต่อนัด

    – การผ่านบอล
    สิ่งหนึ่งที่ทำให้ บุสเก็ตส์ แตกต่างจากมิดฟิลด์ตัวรับทั่วไปในสมัยนี้คือการที่เขาสามารถผ่านบอลได้ดีด้วย ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาก็มีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลในลีกเข้าเป้าถึง 89.4 เปอร์เซ็นต์เลย แถมเขาผ่านบอลแม่นยำมากถึงขนาดนั้นในสภาพที่เจ้าตัวพยายามผ่านบอลต่อเกมบ่อยมากๆ ที่จำนวน 81.3 ครั้งต่อเกมด้วย

    ทั้งนี้ ก็องเต้ ไม่ค่อยเน้นการผ่านบอลเท่าไหร่ ในฤดูกาลนี้เขามีจังหวะผ่านบอลในลีกเฉลี่ยแล้ว 47.7 ครั้งต่อเกมเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะมีจังหวะพยายามผ่านบอลน้อยขนาดนั้น เพราะเขาเป็นนักเตะประเภทเน้นเกมรับมากกว่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะเขาผ่านบอลเข้าเป้า 83.2 เปอร์เซ็นต์

    ถ้าจะมีตรงจุดไหนในการผ่านบอลที่ ก็องเต้ ทำได้ดีกว่า บุสเก็ตส์ ก็คือการผ่านบอลที่เป็นจังหวะสำคัญ เพราะค่าเฉลี่ยด้านนี้ของเขาอยู่ที่ 1.3 ครั้งต่อเกม เฉือนชนะ บุสเก็ตส์ ที่ทำได้ 0.9 ครั้งต่อนัดไปนิดหน่อย

    – การครองบอล
    นอกจากจะช่วยตัดบอลได้ดีแล้วนั้น บุสเก็ตส์ ยังเป็นคนที่ครองบอลเอาไว้ได้เหนียวแน่นด้วย เพราะเขาโดนคู่แข่งแย่งบอลในลีกไปเพียงเฉลี่ยแล้ว 0.5 ครั้งต่อเกม ขณะเดียวกันก็มีค่าเฉลี่ยการทำบอลหลุดจากเท้าเองเพียงแค่ 0.6 ครั้งต่อนัดเท่านั้น

    ขณะที่ ก็องเต้ ทำผลงานด้านนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่ ในฤดูกาลนี้เขาโดนคู่แข่งแย่งบอลจากเท้าไปเฉลี่ยแล้ว 1.6 ครั้งต่อเกมกับการลงเล่นในลีก และทำบอลหลุดจากเท้าเฉลี่ย 1.7 ครั้งต่อนัด โดยที่จริงเขาก็มีปัญหาด้านนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว อย่างฤดูกาลก่อนเขายังโดนคู่แข่งในลีกแย่งบอลไปเฉลี่ย 1.5 ครั้งต่อเกม และทำบอลหลุดจากเท้าเอง 1.6 ครั้งต่อนัดเลย

    สรุป : ในด้านเกมรับแล้วนั้น ก็องเต้ คือตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของ บุสเก็ตส์ และยังมีบางด้านที่เหนือกว่าด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดาวเตะชาวฝรั่งเศสอาจจะต้องแก้ไขนิดหน่อยถ้าหากไปสวมเสื้อ บาร์เซโลน่า คือการเก็บบอลเอาไว้กับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ บาร์เซโลน่า ที่เน้นการต่อบอลเป็นหลัก

     
    – เด็กเกร็ดบอล –