จากฮีโร่สู่ซีโร่! ย้อน 3 เรื่องฉาวของ โรนัลดินโญ่

17 ปีของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ โรนัลดินโญ่ เขาได้รับคำชมอย่างมากจากการที่มีฝีเท้าอันโดดเด่น ทั้งตอนเริ่มต้นอาชีพนักเตะการจากการเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เกรมิโอ ในปี 1998 จนถึงตอนเล่นให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาร์เซโลน่า และ เอซี มิลาน ก่อนที่เขาจะแขวนสตั๊ดในปี 2015 โดยที่ต้นสังกัดสุดท้ายของเขาคือ ฟลูมิเนนเซ่

   ตอนนั้น โรนัลดินโญ่ อำลาสนามฟุตบอลไปอย่างยิ่งใหญ่ เขาได้แชมป์ ฟุตบอลโลก กับทีมชาติบราซิล ตามด้วยแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ 2 หนกับ บาร์เซโลน่า แถมยังมีแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา 1 สมัยกับ เอซี มิลาน อีก นอกจากนี้ ในด้านรางวัลส่วนตัวเขาก็เคยได้รางวัล บัลลง ดอร์ ในปี 2005 ด้วย ทำให้ถึงแม้ภาพลักษณ์ของเขาจะเป็นพวกที่ชอบเที่ยวหนักอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มากพอที่จะทำลายชื่อเสียงของเขาได้

   อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมาชื่อเสียงของนักเตะที่เคยเขย่าวงการลูกหนังกลับพังทลายจนทำลายภาพลักษณ์สมัยที่เขาโชว์ฟอร์มในสนามไประดับหนึ่ง โดยล่าสุดเขาก็เพิ่งโดนตำรวจที่ประเทศปารากวัยจับตัว จากข้อกล่าวหาของการใช้พาสปอร์ตปลอม และวันนี้เราก็จะมาย้อนดูเรื่องราวอันฉาวโฉ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของอดีตดาวเตะเบอร์ 1 ของโลกกัน

 – สร้างบ่อดักปลาผิดกฎจนโดนยึดพาสปอร์ต

  เมื่อปี 2015 หรือก็คือปีเดียวกับที่เขาอำลาสนาม โรนัลดินโญ่ กับ โรแบร์โต้ เดอ แอสซิส พี่ชายแสนรักของเขา ตกเป็นข่าวดังของที่ประเทศบราซิล จากการที่ไปสร้างบ่อดักปลาแบบปิดกฎหมาย โดยประเด็นก็คือทั้งคู่ดันไปสร้างมันที่ทะเลสาบกวยบ้า ซึ่งเป็นทะเลสาบสงวน และคนที่จะสร้างมันได้ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องซะก่อน

   ความผิดในครั้งนั้นทำให้มันมีการดำเนินคดีกันอย่างดุเดือด ก่อนที่เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 พวกเขาจะโดนสั่งปรับเงินจำนวน 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 272 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม โรนัลดินโญ่ กับพี่ชายของเขาปฏิเสธที่จะจ่ายค่าปรับ ทำให้ศาลตัดสินยกเลิกพาสปอร์ตสัญชาติบราซิเลียนของทั้งคู่ หรือก็คือพวกเขาไม่สามารถเดินทางออกจากขอบเขตของประเทศบราซิลได้แม้แต่ปลายนิ้วเท้า

 – รักควบสอง

  ด้วยความที่เป็นนักเตะชื่อดังระดับโลก และมีทีรัพย์สินมากมายก่ายกอง ทำให้มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีสาวหลายคนอยากเป็นคนรักของ โรนัลดินโญ่ แต่ประเด็นร้อนก็คือ โรนัลดินโญ่ และคบกับสาวทีเดียว 2 คน ได้แก่ บีอาทริซ ซูซ่า กับ พริสซิลล่า โชเอลโญ่ แถมเขายังให้ทั้งคู่รู้ด้วยว่าพวกเธอทั้ง 2 คนมีศักดิ์เป็นแฟนของเขา

  ตอนแรก ซูซ่า กับ โชเอลโญ่ ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการที่รู้ว่าพวกเธอต่างก็ได้ครองหัวใจของ โรนัลดินโญ่ คนละครึ่ง โดย 1 ชายกับ 2 สาวถึงขั้นนอนพักในบ้านหลังเดียวกัน ในสภาพที่ห้องของฝ่ายหญิงจะแบ่งเป็นคนละห้อง และมีการกำหนดเอาไว้ด้วยว่าแต่ละวัน โรนัลดินโญ่ จะไปกุ๊กกิ๊กกับสาวคนไหน นอกจากนี้ พวกเขายังไปเที่ยวด้วยกัน และ โรนัลดินโญ่ ก็จะให้ของขวัญทั้งคู่แบบเดียวกันด้วย จนมันถึงขนาดมีข่าวลือว่า โรนัลดินโญ่ เตรียมที่จะจัดพิธีแต่งงานกับเธอทั้งคู่

  ประเด็นก็คือตามกฎของประเทศบราซิลนั้น การมีภรรยาพร้อมกัน 2 คนมันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และคนที่ทำผิดก็มีสิทธิ์ติดคุกถึง 6 ปี โดยเรื่องนี้ถูกเปิดโปงเป็นครั้งแรกในปี 2018 และถึงแม้เขาจะออกมาปฏิเสธถึงเรื่องนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจหั่น พริสซิลล่า ออกจากชีวิตของเขาด้วยการเลิกกับเธอ ทั้งที่คบกันมานาน 6 ปี

  หลังจากโดน โรนัลดินโญ่ ตัดสายสัมพันธ์แล้วนั้น พริสซิลล่า ก็ไม่รอช้า เธอยื่นเรื่องดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อขอแบ่งทรัพย์สินของ โรนัลดินโญ่ ทันที โดยตอนนั้นเชื่อกันว่า โรนัลดินโญ่ มีสมบัติมากมายก่ายกองจนมีมูลค่าสูงถึง 70 ล้านปอนด์

 – ถังแตกและโดนยึดทรัพย์

  ถึงแม้ว่า โรนัลดินโญ่ จะสร้างองค์กรการกุศลชื่อ โรนัลดินโญ่ เกาโช่ อินส์ติติวต์ ขึ้นมา แต่เขาก็โดนตัดสินว่ามีความผิด จากประเด็นที่การก่อสร้างตึกเกี่ยวกับองค์กรการกุศลเมื่อปี 2013 มันส่งผลเสียกับสภาพแวดล้อม  อย่างเช่นการตัดไม้ต้องห้าม เป็นต้น ทำให้ โรนัลดินโญ่ จำเป็นต้องจ่ายค่าปรับ

  อย่างไรก็ตาม โรนัลดินโญ่ ก็ไม่ยอมจ่ายค่าปรับดังกล่าว ทำให้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 ทางการส่งคนไปที่บ้านของเขาเพื่อยึดทรัพย์สมบัติของเจ้าตัว โดยอันที่ดูหรูๆ ก็มีอย่างเช่นรถ บีเอ็มดับเบิ้ลยู 3 คัน และภาพวาดสุดเก๋ไก๋ เป็นต้น

  ถึงกระนั้น สิ่งที่ทำให้หลายคนช็อกก็คือพอมีการไปตรวจบัญชีของเขาแล้วนั้น มันก็พบว่าตอนนั้นเงินในบัญชีของ โรนัลดินโญ่ เหลือเพียง 5 ปอนด์เท่านั้น จริงอยู่ว่ามันไม่ใช่เงินทั้งหมดของเขาที่มี แต่มันแสดงให้เห็นว่า โรนัลดินโญ่ อยู่ได้เฉพาะเงินที่เก็บอยู่ในแมนชั่นเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ไม่ได้มากมายอะไร

  ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2019 โรนัลดินโญ่ ก็โดนคนบุกไปยึดทรัพย์ที่บ้านอีกรอบ หลังจากเจ้าตัวยังไม่ยอมจ่ายหนี้และค่าปรับต่างๆ โดยหนนี้เขาโดนยึดทรัพย์สมบัติไปมากถึง 57 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งรอบนี้เขาโดนยกเลิกพาสปอร์ตสัญชาติสเปนด้วย

  ในวงการกีฬาต่างประเทศนั้นมักจะมีการใช้คำว่า "ฮอลล์ ออฟ เชม" (Hall of Shame) เพื่อเป็นการล้อเลียนกับด้านตรงข้ามของ หอเกียรติยศหรือ "ฮอลล์ ออฟ เฟม" (Hall of Fame) เวลาที่พูดถึงเรื่องฉาวๆ ของนักกีฬา เนื่องจากคำว่า Shame แปลว่า น่าอับอายหรือความอัปยศ ซึ่งหลายคนก็หวังว่า "ฮอลล์ ออฟ เชม" ของ โรนัลดินโญ่ จะจบแค่เรื่องการใช้พาสปอร์ตปลอมเท่านั้น