"เดอะ ค็อป"ยังได้สิทธิ์ชมเกมในแอนฟิลด์! ผ่า 5 ข้อก่อนแมตช์ ลิเวอร์พูล ปะทะ เวสต์บรอมฯ

    ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดบ้านรับมือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึก “บ็อกซิ่งเดย์” เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคมนี้ โดย “หงส์แดง” มีสถิติที่ดีเยี่ยมในการเล่นเกมเหย้า ที่สำคัยยังมักจะจัดการบรรดาทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นซะด้วย   

    อย่างไรก็ตาม "เดอะ เร้ดส์" ยังไม่สามารถใช้งาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่แม้ว่าจะหายเจ็บและกลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังไม่รีบเร่งส่งนักเตะลงสนาม เพราะต้องการให้เขาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย จึงจะจัดการใช้งาน 

    สำหรับแมตช์นี้ "หงส์แดง" ยังมีข่าวดีอีกเรื่องก็คือพวกเขายังได้สิทธิ์จากรัฐบาลที่อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมในแอนฟิลด์ได้ 2,000 คน เนื่องจากยังอยู่ในพื้นที่ระดับ 2 (เทียร์ 2) ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่รุนแรง ในขณะที่เมืองอื่นๆ โดนเล่นงานอย่างหนัก 
    

1.  ติอาโก้ หายเจ็บแต่ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้
    สำหรับหนึ่งในข่าวดีต้อนรับคริสต์มาสก็คงหนีไม่พ้นการที่ 3 นักเตะสำคัญของทีมทั้ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เจมส์ มิลเนอร์ และ เซอร์ดาน ชากีรี่ หายเจ็บกลับมาลงซ้อมเบาๆ ได้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมสำหรับทีมในช่วงโปรแกรมแน่นเอี๊ยดแบบนี้

    การที่ได้เห็นทั้ง 3 คนกลับมาร่วมฝึกซ้อมที่แอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ศูนย์ฝึกแห่งใหม่ของทีมในย่านเคิร์คบี้ ถือเป็นฤกษ์งามยามดีก่อนที่จะทำศึก "บ็อกซิ่งเดย์" เนื่องจากสาวก "เดอะ ค็อป" จะได้เห็นผู้เล่นกำลังหลักโดยเฉพาะ ติอาโก้ กลับมาช่วยปั้นเกมให้กับทีม

    อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดการเบรกความฝันของแฟนบอล "หงส์แดง" เอาไว้ก่อน เพราะเขายืนยันว่ายังไม่ส่ง ติอาโก้ ลงสนามในเกมรับมือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่สนามแอนฟิลด์ แน่นอน เนื่องจากสภาพร่างกายของนักเตะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ ฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นได้ๆ ที่จะต้องรีบเร่งส่งเขาลงสนาม

    แม้ว่า ติอาโก้ จะไม่สามารถเล่นในเกมกับ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ได้ก็ตาม แต่การที่ได้เห็นเขากลับมาฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับช่วงเวลาปีใหม่ที่จะได้เห็นจอมทัพสมองเพชร กลับมาสร้างโอกาสให้กับแนวรุก "หงส์แดง" อีกครั้ง อย่าลืมว่านักเตะเพิ่งลงเล่นเพียง 2 เกม แต่สร้างความฮือฮาในเรื่องสถิติมาแล้ว คงจำกันได้ !!

2.  ซาลาห์หน้าเปื้อนยิ้มสุดแฮปปี้กับ "หงส์แดง"
    ช่วงสัปดาห์นี้มีรายงานออกมาเป็นระลอกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่มีความสุขกับการเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ อีกแล้ว หลังจากที่เขาไม่ค่อยพอใจที่ คล็อปป์ ไม่ยอมให้ปลอกแขนกัปตันทีม "เดอะ เร้ดส์" ในเกมที่ไปเยือน มิดทิลแลนด์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย

    ที่สำคัญการที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อแดนกระทิงดุ ก่อนเกมไล่ถลุง คริสตัล พาเลซ ว่าสนใจไปเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า แลเ เรอัล มาดริด ทำให้หลายคนคาดเดากันว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาโดนดร็อปจากการเป็น 11 ตัวจริงในแมตช์ไล่ต้อน คริสตัล พาเลซ เกมลีกนัดที่ผ่านมา    

    อย่างไรก็ตามจากภาพล่าสุดในสนามซ้อมของทีม เห็นได้ชัดว่า "บังโม" กับ คล็อปป์ ยิ้มอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าทั้งคู่ยังคงมีความสัมพันธ์แนบแน่น นอกจากนี้ กุนซือชาวเยอรมัน ยังยืนยันว่า ซาลาห์ สุดแฮปปี้กับทีม และพร้อมที่จะลงสนามในแมตช์ด้วย เวสต์บรอมฯ 

    ทั้งนี้ ซาลาห์ ซัดไปแล้ว 13 ประตูนำเป็นดาวซัลโวลีกในเวลานี้พร้อมทั้งยังเกี่ยวข้องกับ 15 ประตูจาก 10 เกมลีกที่ลงสนามพบกับสโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา (9 ประตู, 1 แอสซิสต์) ล่าสุดก็จัดการกดแฮตทริกในเกมชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด (แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นที่ผ่านมา) 

    
3. เครื่องจักรแดนกลางฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเกม
    สำหรับในเวลานี้แดนกลางของ ลิเวอร์พูล มีความสำคัญมากๆ เพราะ "หงส์แดง" มักจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจากการปั้นเกมในแผงมิดฟิลด์ รวมทั้งยังช่วยเกมรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ คล็อปป์ มักจะใช้งาน 3 แข้งสำคัญติดต่อกันหลายเกม

    จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ทำหน้าที่คอยคุมจังหวะในการเล่นทั้งการเติมเกมบุก และการช่วยเกมรับ ทำให้ "หงส์แดง" มีสมดุลในแดนกลาง ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะทำหน้าที่สอดประสานกับ ไวจ์นัลดุม หากคนใดคนหนึ่งเติมเกมบุกอีกคนจะคอยทำหน้าที่คุมพื้นที่ 

    ในส่วนของ เคอร์ติส โจนส์ ต้องบอกเลยว่าเป็นนักเตะที่ถูกอกถูกใจ คล็อปป์ อย่างมาก โดยดาวรุ่งรายนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์เกม และยังมีทีเด็ดในผ่านบอลที่แม่นยำ รวมไปถึงสามารถที่จะลากบอลเข้าไปสร้างความอันตรายในกรอบเขตโทษได้ด้วย

    นอกจากนี้ "เดอะ เร้ดส์" ยังมีกำลังสำรองที่พร้อมสอดแทรกเพื่อช่วยสร้างความแปลกใหม่หรือแก้ไขสถานการณ์ของทีม ทั้ง นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ทาคูมิ มินามิโนะ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้สามารถลงไปเปลี่ยนเกมให้กับทีมได้ทันทีที่ คล็อปป์ ต้องการ 
 

4. ยืดสถิติไร้พ่ายในแอนฟิลด์ พร้อมเว้นระยะห่างผู้ตาม
    ตอนนี้ แอนฟิลด์ น่าจะกลายเป็นสนามที่บรรดาทีมเยือนต่างรู้สึกขาสั่นทุกครั้งที่เดินทางมาที่นี่ เพราะสถิติที่ "เดอะ เร้ดส์" สร้างเอาไว้มันน่าสยดสยองเหลือเกิน เนื่องจากพวกเขาสะกดคำว่า "แพ้" ไม่เป็นมาแล้ว 66 แมตช์ติดต่อกันเลยทีเดียว

    ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านตัวเองทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องอาศัยประโยชน์จากตรงนี้เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้ เนื่องจากพวกเขาลงแข่งวันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค. ขณะที่เกมระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เลสเตอร์ ซิตี้ แข่งกันวันเสาร์นี้ ซึ่งหากมีผลแพ้ชนะ แต้มก็จะไล่บี้จ่าฝูงทันที แต่ถ้าเสมอก็ถือว่าเป็นโชคดีของ "หงส์แดง"

    แน่นอนว่า คล็อปป์ คงกระตุ้นลูกทีมให้ใส่เต็มสูบ แต่ยังคงเน้นย้ำเรื่องการเล่นแบบไม่ประมาท อย่าลืมว่าในซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล มักจะทำผลงานไม่ค่อยดีนักเวลาเจอกับทีมที่ดูเหมือนด้อยกว่า ทั้งเกมที่แพ้ยับ แอสตัน วิลล่า 2-7 และเสมอ ฟูแล่ม กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วย

    ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครเลย 10 เกมที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่พวกเขาโดน วิลล่า สอนเชิงจนแทบหาทางกลับบ้านไม่ถูก ส่วนการเจอกับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นต้องบอกว่า "หงส์แดง" มีสถิติที่ดีมากๆ เเมื่อชนะรวดทั้ง 14 เกมในยุคของ คล็อปป์ และทำได้ 41 ประตูกับเสีย 7 ลูก แถมยังแพ้แค่เกมเดียวจาก 52 แมตช์หลังสุดที่เจอกับทีมน้องใหม่ ซึ่งก็ต้องย้อนเมื่อซีซั่น 2010/2011 

5. สาวก "เดอะ ค็อป" ยังได้สิทธิ์เข้าชมเกมในบ้าน
    หนึ่งในเรื่องที่น่ายินดีสำหรับตอนนี้ก็คือเมืองลิเวอร์พูล ยังถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงระดับ 2 (เทียร์ 2) นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน เป็นเพียงแค่ 2 ทีมในพรีเมียร์ลีก ที่ยังมีแฟนบอลเข้าไปชมเกมในบ้านช่วง โปรแกรมท้ายปี

    จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง และส่งผลให้สโมสรในกรุงลอนดอนที่ถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ระดับ 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ เชลซี, อาร์เซน่อล, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, คริสตัล พาเลซ และฟูแล่ม ถูกห้ามแฟนบอลเข้าชมเกม

    ล่าสุด "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน และ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้น ถูกยกระดับจากพื้นที่ระดับ 2 ขึ้นมาเป็นระดับ 4 (เทียร์ 4) ซึ่งนั่นหมายความว่าแฟนบอลของพวกเขาหมดสิทธิ์ที่จะเข้าไปให้กำลังใจทีมรักทั้งในเซนต์ แมรี่ส์ และ เอแม็กซ์ สเตเดี้ยม 

    ฉะนั้นในเกมรับมือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แน่นอนว่าทัพ "หงส์แดง" ได้เปรียบทั้งการเล่นในแอนฟิลด์ ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และยังมีสาวก "เดอะ ค็อป" มาให้กำลังใจถึง 2,000 คนด้วย !!

ทอมเม้ง