เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม

เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม สำหรับแฟนบอลหลายคนแล้วนั้น ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ อาจจะเป็นคนที่เข้าขั้น “แบดบอย” จากการที่เขาเคยแสดงพฤติกรรมแนวห่ามๆ แบบเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ทั้งในและนอกสนาม แถมเจ้าตัวยังเคยเล่นสารเสพติดจนกลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกลูกหนังด้วย     อย่างไรก็ตาม อีกมุมหนึ่ง มาราโดน่า ก็เป็นคนที่ใจกว้างและพร้อมทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเช่นกัน หากเจอคนที่กำลังเจอกับความยากลำบากแล้วนั้น "เสือเตี้ย" ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือคนเหล่านั้นอย่างเต็มที่ เพราะเขาเข้าใจดีว่าคนเหล่านั้นต้องเจอกับปัญหามากแค่ไหน เนื่องจากเจ้าตัวก็เคยมีชีวิตที่ยากจนในระดับหนึ่งมาก่อน     ความตั้งใจทำเพื่อสังคมของ มาราโดน่า ถึงขั้นทำให้เขาไปเล่นเกมการกุศลที่มีสภาพสนามแย่สุดๆ ทั้งที่ตอนนั้นเจ้าตัวเป็นสตาร์ดังระดับโลกแล้ว แถมเขายังทำอย่างนั้นโดยที่ขัดกับความต้องการของ นาโปลี สโมสรที่เป็นต้นสังกัดของตัวเองด้วย     เรื่องของเรื่องคือย้อนกลับไปในปี 1984 มาราโดน่า เพิ่งย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ นาโปลี ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกในตอนนั้นที่ 6.9 ล้านปอนด์ แถมเขายังได้รับการเปิดตัวสมกับการเป็นสตาร์ดังระดับโลกด้วย เพราะมีแฟนบอลมาร่วมชมพิธีเปิดตัวของเขามากถึง 75,000 คน     หลังจากเล่นให้ทีมมาได้ราว 6 เดือน […]


เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม

เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม

สำหรับแฟนบอลหลายคนแล้วนั้น ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ อาจจะเป็นคนที่เข้าขั้น “แบดบอย” จากการที่เขาเคยแสดงพฤติกรรมแนวห่ามๆ แบบเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ทั้งในและนอกสนาม แถมเจ้าตัวยังเคยเล่นสารเสพติดจนกลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกลูกหนังด้วย

    อย่างไรก็ตาม อีกมุมหนึ่ง มาราโดน่า ก็เป็นคนที่ใจกว้างและพร้อมทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเช่นกัน หากเจอคนที่กำลังเจอกับความยากลำบากแล้วนั้น "เสือเตี้ย" ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือคนเหล่านั้นอย่างเต็มที่ เพราะเขาเข้าใจดีว่าคนเหล่านั้นต้องเจอกับปัญหามากแค่ไหน เนื่องจากเจ้าตัวก็เคยมีชีวิตที่ยากจนในระดับหนึ่งมาก่อน

    ความตั้งใจทำเพื่อสังคมของ มาราโดน่า ถึงขั้นทำให้เขาไปเล่นเกมการกุศลที่มีสภาพสนามแย่สุดๆ ทั้งที่ตอนนั้นเจ้าตัวเป็นสตาร์ดังระดับโลกแล้ว แถมเขายังทำอย่างนั้นโดยที่ขัดกับความต้องการของ นาโปลี สโมสรที่เป็นต้นสังกัดของตัวเองด้วย

เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม

    เรื่องของเรื่องคือย้อนกลับไปในปี 1984 มาราโดน่า เพิ่งย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ นาโปลี ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกในตอนนั้นที่ 6.9 ล้านปอนด์ แถมเขายังได้รับการเปิดตัวสมกับการเป็นสตาร์ดังระดับโลกด้วย เพราะมีแฟนบอลมาร่วมชมพิธีเปิดตัวของเขามากถึง 75,000 คน

    หลังจากเล่นให้ทีมมาได้ราว 6 เดือน จู่ๆ วันหนึ่งก็มีนักเตะจากทีมสำรองของ นาโปลี ที่เข้าไปหา มาราโดน่า เพื่อขอให้เขาไปช่วยเล่นเกมการกุศลในย่านอาแชร์ร่า ซึ่งว่ากันว่าเป็นย่าานที่ยากจนที่สุดของเมืองเนเปิ้ลส์  โดยที่แข้งคนดังกล่าวได้รับการอ้อนวอนมาจากชายนิรนามคนหนึ่งอีกที

เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม

    สาเหตุที่ชายนิรนามคนนั้นอยากให้ มาราโดน่า มาเล่นเกมการกุศลนัดที่ว่านั้น เป็นเพราะเกมดังกล่าวจัดขึ้นโดยที่หวังจะระดมทุนเพื่อหาค่าผ่าตัดให้กับลูกชายของเขาที่กำลังป่วยหนัก แถมมันจำเป็นต้องเดินทางไปทำการผ่าตัดที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย โดยหากไม่มีการรับมีดหมอแล้วล่ะก็ เด็กคนดังกล่าวก็อาจจะเสียชีวิตได้เลย

    พอได้ยินแบบนั้น มาราโดน่า ก็ตอบตกลงที่จะเล่นเกมการกุศลเกมนี้ทันที แน่นอนว่าข่าวนี้ทำให้พ่อของเด็กคนนั้นดีใจมากๆ แต่ในทางตรงกันข้าม คอร์ราโด้ แฟร์ไลโน่ ประธาน นาโปลี ในตอนนั้นไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะเขาไม่อยากเสี่ยงให้ซูเปอร์สตาร์ของทีมต้องมาได้รับบาดเจ็บจากการไปเล่นเกมที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีเพียงนักเตะสมัครเล่นที่ลงไปอยู่ในสนาม

    ถึงกระนั้น มาราโดน่า ก็ไม่สนคำห้ามดังกล่าว แถมเขายังถึงขั้นควักกระเป๋าจ่ายค่าประกันด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้ให้ทีมยอมปล่อยเขาไปเล่นเกมนี้ด้วย ซึ่งว่ากันว่าเขาพูดอีกว่า "ช่างหัว ลอยด์ส ออฟ ลอนดอน (บริษัทประกันภัย) มันสิ มันจำเป็นต้องเล่นเกมนี้เพื่อเด็กคนนั้น"

    สุดท้ายแล้ว นาโปลี ก็ยอมปล่อย มาราโดน่า มาเล่นเกมนี้ ซึ่งทันทีที่ "เสือเตี้ย" เดินทางไปถึงสถานที่จัดการแข่งขัน เขาก็ได้พบกับสนามแข่งที่เต็มไปด้วยโคลน ต่างกับสนามฟุตบอลมาตรฐานสูงที่เขาเล่นในเกมฟุตบอลอาชีพแบบฟ้ากับเหว ขณะที่สื่อบางเจ้าก็ยังถึงขั้นบอกว่านี่มันเหมือนกับเป็นแปลงปลูกมันฝรั่งมากกว่าสนามบอลซะอีก

เมื่อ มาราโดน่า ขัดใจต้นสังกัดเพื่อสังคม

    ถึงกระนั้น มาราโดน่า ก็ไม่ปริปากบ่นแม้แต่นิดเดียว เขาไปอบอุ่นร่างกายที่ลานจอดรถท่ามกลางอากาซที่หนาวเหน็บ, ถ่ายรูปกับเด็กๆ ที่สวมเสื้อกันหนาวมาหนาเตอะ และพอลงไปเล่นในสนาม เขาก็ยังเล่นแบบจริงจังประหนึ่งลงเล่นเกมระดับอาชีพจริงๆ แถมยังทำประตูสวยๆ ได้ด้วย

    ทั้งนี้ ในเกมนั้นมีแฟนบอลมาชมการแข่งขันถึง 10,000 คน และสุดท้ายมันก็สามารถระดมทุนได้ 8,000 ปอนด์ ทำให้เด็กคนดังกล่าวสามารถเดินทางไปรับการผ่าตัดที่ประเทศฝรั่งเศสได้ และทุกอย่างก็จบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง

    – เด็กเกร็ดบอล –

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *