ไม่ใช่แค่นักเตะและกุนซือ! ผอ. ฟุตบอล ตำแหน่งที่ นิวคาสเซิ่ล จำเป็นต้องหาให้ได้

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาประเด็นข่าวที่กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งนำโดย โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย กำลังที่จะเข้าเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มันถือว่าได้รับความสนใจพอตัว ทั้งจากประเด็นที่ “สาลิกาดง” เป็นทีมดังของเมืองผู้ดี ส่วนมกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน ก็ทรงมีทรัพย์สมบัติเยอะมาก จนว่ากันว่าจะเทคโอเวอร์ทีมด้วยข้อเสนอ 300 ล้านปอนด์

    ที่จริงแล้วราชวงศ์ของซาอุดิอาระเบียมีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายหน อย่างเช่นการที่ มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน ทรงโดนกล่าวหาว่าสั่งให้สังหารจามาล คาชูจกิ นักข่าวรายหนึ่งที่มักจะวิจารณ์รัฐบาลซาอุดิอาระเบียอย่างหนัก จนทางองค์การนิรโทษกรรมสากล (แอมเนสตี้) พยายามคัดค้านการซื้อ นิวคาสเซิ่ล เหมือนกัน แต่หลายคนเชื่อกันว่ามันมีโอกาสสูงที่ นิวคาสเซิ่ล จะตกเป็นของกลุ่มทุนจากชาติย่านตะวันออกกลางอยู่ดี

    เรื่องดังกล่าวส่งผลให้ นิวคาสเซิ่ล ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการซื้อแข้งหลายต่อหลายราย อย่างเช่น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, คาลิดู คูลิบาลี่ ฯลฯ ส่วนตำแหน่งกุนซือก็มีข่าวกับคนอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เลย

    อย่างไรก็ตาม นักเตะกับกุนซือไม่ใช่จุดเพียง 2 จุดที่กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียต้องให้ความสำคัญถ้าหากพวกเขาเข้ามาเทคโอเวอร์ทีม แต่อีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญมากๆ คือตำแหน่ง ผู้อำนวยการฟุตบอล

    มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มหาเศรษฐีทั่วโลกจะหันมาทุ่มเงินซื้อทีมฟุตบอลกันมากขึ้น เพราะนอกจากมันจะเป็นกีฬาที่น่าสนใจแล้วนั้น มันยังช่วยทำธุรกิจได้ดีในระดับหนึ่งด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าการทำทีมฟุตบอลจะสำเร็จได้ง่ายๆ

    กลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นำโดย ชีคห์ มันซูร์ ซึ่งเป็นเจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือกลุ่มทุนจาก กาตาร์ เจ้าของทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มี นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ เป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ อาจจะทำให้ทีมมีผลงานที่โดดเด่น และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องฟุตบอลมากเหมือนกับคนทื่คลุกคลีกับวงการลูกหนังจริงๆ

    ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเอาคนที่มีความเชี่ยวชาญมารับงานผู้อำนวยการฟุตบอล เพื่อที่จะให้คนเหล่านั้นเป็นเหมือนมือข้างพิเศษของพวกเขาสำหรับการทำทีมแทนพวกเขา

    แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การทำทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาได้แชมป์ลีกมา 2 สมัยติดต่อกันในสภาพที่เก็บคะแนนรวมได้ถึง 198 คะแนน แถมซีซั่นที่แล้วยังกวาดแชมป์รายการใหญ่ภายในเกาะอังกฤษครบทั้ง 3 รายการ นั่นคือแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ซึ่งความสำเร็จเหล่านั้นอาจจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่ใช่เพราะพวกเขามีผู้อำนวยการกีฬาที่ชื่อว่า ซิกิ เบกิริสไตน์

    เบกิริสไตน์ มีประสบการณ์โชกโชนในแวดวงฟุตบอล สมัยเป็นนักเตะเขาเคยอยู่กับทั้ง เรอัล โซเซียดาด และ บาร์เซโลน่า มาแล้ว รวมถึงเคยเล่นให้ทีมชาติสเปนด้วย ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดไปกับ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ทีมดังในประเทศญี่ปุ่น

    หลังจากแขวนสตั๊ดไปแล้ว เบกิริสไตน์ ก็ไปทำงานเป็นนักบรรยายเกมการแข่งขัน ก่อนจะมาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลของ บาร์เซโลน่า ในปี 2003 ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นจนทำให้ บาร์เซโลน่า มีทีมที่ยอดเยี่ยม และพอถึงปี 2012 เขาก็เข้ามาทำงานกับ แมนฯ ซิตี้ ในฐานะผอ. ฟุตบอล

    มันสมองและสายตาในการมองหานักเตะของเขาทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีทีมที่แข็งแกร่งมากๆ ในตอนนี้ นอกจากนี้ การที่ กวาร์ดิโอล่า มารับงานกับ "เรือใบสีฟ้า" นั้น ส่วนหนึ่งมันก็เป็นเพราะ เบกิริสไตน์ มีความสนิทสนมที่ดีกับ เป๊ป ด้วย

    ทางฝั่ง ปารีสฯ ก็ให้ความสำคัญกับตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลเหมือนกัน โดยปัจจุบันคนที่รับงานนี้กับทีมคือ เลโอนาร์โด้ อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิลที่เคยเล่นให้กับ "เปแอสเช" และ เอซี มิลาน มาแล้ว ซึ่งที่จริงนี่ถือเป็นการกลับมาทำงานในตำแหน่งผอ.ฟุตบอลกับ ปารีสฯ ครั้งที่ 2 ของ เลโอนาร์โด้ ด้วย

    ทั้งนี้ ในช่วงที่ เลโอนาร์โด้ บอกลาตำแหน่งผอ.ฟุตบอลของทีมหนแรกไปนั้น ปารีสฯ ก็เคยเอา อันเตโร้ เอ็นรีเก้ มารับงานนี้เช่นกัน ไม่ได้ปล่อยให้ตำแหน่งว่างลงแต่อย่างใด เพียงแตสุดท้ายมันก็เกิดปัญหาจนทำให้ต้องมีการปลด เอ็นรีเก้ แล้วเอา เลโอนาร์โด้ กลับมา

    ส่วนหนึ่งที่ทำให้ ปารีสฯ มีผลงานที่คงเส้นคงวาในลีกก็มาจากการที่พวกเขามีผอ.ฟุตบอลที่กำหนดแนวทางให้สโมสรได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างที่ไม่นานมานี้ก็คือการที่ เลโอนาร์โด้ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่ลูกไก่ที่จะโดน เนย์มาร์ แข้งซูเปอร์สตาร์ของทีมกดดันได้ง่ายๆ นั่นเอง

    ตัวอย่างของการที่เศรษฐีเทคโอเวอร์ทีม แต่กลับบริหารได้ไม่ดีเพราะขาดคนที่จะเป็นผอ.ฟุตบอล หรือหาคนไม่เหมาะสมมารับงานนั้นก็มีให้เห็นมาแล้ว หนึ่งในนั้นคือ มาลาก้า ที่เคยสร้างความฮือฮาในยุคของ ชีคห์ อับดุลลาห์ เบน นาสเซอร์ อัล ธานี่ ด้วยการเอาแข้งฝีเท้าดีมาร่วมทีมหลายราย อย่างเช่น ซานติ กาซอร์ล่า จนทำให้ทีมเคยไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ตอนนี้ตกอับจนหล่นไปอยู่ใน เซกุนด้า ดิวิชั่น

    ขณะที่ อันจิ มาคัชคาล่า ทีมในรัสเซียก็เข้าข่ายนั้น เพราะภายใต้การบริหารของ ซูเลย์มาน เคริมอฟ มหาเศรษฐีรายหนึ่ง พวกเขาถึงขนาดเคยเซ็นสัญญากับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบบฟรีๆ แต่ต้องจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโต และดึง ซามูเอล เอโต้ ไปจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวราว 28 ล้านยูโรมาแล้ว แต่หลังจากนั้นกราฟของทีมก็ดิ่งลงเหว

    ในตอนนี้ทีมของเกาะอังกฤษที่ดูประสบความสำเร็จจากการใช้งานตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลมากที่สุดมีเพียง แมนฯ ซิตี้ ที่ใช้บริการของ เบกิริสไตน์ กับ ลิเวอร์พูล ที่มี ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ รับงานดังกล่าวอยู่เท่านั้น งานนี้คงต้องรอดูกันว่า นิวคาสเซิ่ล จะสามารถหาผอ.ฟุตบอลที่ดีๆ เพื่อทำให้ทีมประสบความสำเร็จระยะยาวได้รึเปล่า

   
    – เด็กเกร็ดบอล –