ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า “Michael Carrick will now take charge of the team for forthcoming games, while the club looks to appoint an interim manager to the end of the season.” คือประโยคที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ในตอนแถลงการณ์เรื่องปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยมันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค จะได้คุมทีมไปก่อน โดยที่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กำลังหาคนที่จะมารับงานผู้จัดการทีมชั่วคราวให้กับสโมสรไปจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ หรือก็คือ คาร์ริค ไม่ใช่ “กุนซือชั่วคราวตัวจริง” ของพวกเขา     แน่นอน เรื่องในครั้งนี้ทำให้บางคนตั้งข้อสงสัยว่าจะมีสักกี่คนกันที่ยอมมานั่งเก้าอี้กุนซือชั่วคราวให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะนอกจากจะเป็นงานที่หนักหนาสาหัสและกดดันอย่างมากแล้วนั้น มันก็มีโอกาสสูงที่พอจบฤดูกาลแล้วพวกเขาจะไม่ได้รับโอกาสให้ทำทีมต่ออีก   […]


ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

“Michael Carrick will now take charge of the team for forthcoming games, while the club looks to appoint an interim manager to the end of the season.” คือประโยคที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ในตอนแถลงการณ์เรื่องปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยมันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค จะได้คุมทีมไปก่อน โดยที่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กำลังหาคนที่จะมารับงานผู้จัดการทีมชั่วคราวให้กับสโมสรไปจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ หรือก็คือ คาร์ริค ไม่ใช่ “กุนซือชั่วคราวตัวจริง” ของพวกเขา

    แน่นอน เรื่องในครั้งนี้ทำให้บางคนตั้งข้อสงสัยว่าจะมีสักกี่คนกันที่ยอมมานั่งเก้าอี้กุนซือชั่วคราวให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะนอกจากจะเป็นงานที่หนักหนาสาหัสและกดดันอย่างมากแล้วนั้น มันก็มีโอกาสสูงที่พอจบฤดูกาลแล้วพวกเขาจะไม่ได้รับโอกาสให้ทำทีมต่ออีก

 

ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

 

    ทั้งนี้ ปกติแล้วการแต่งตั้งกุนซือรักษาการนั้นจะใช้งานคนที่เป็นสตาฟฟ์โค้ชจากกุนซือคนเก่าที่โดนปลดไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็เคยมีกุนซือที่ไม่ได้อยู่กับทีมงานของกุนซือคนเก่า แต่ยอมมารับงานคุมทีมกลางฤดูกาลก่อนที่จะพาทีมทำผลงานได้โดดเด่นเหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะย้อนไปดูตัวอย่างของคนในกลุ่มนั้นสักหน่อย

    – กุส ฮิดดิ้งค์ (เชลซี ปี 2009)
    เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2009 เชลซี สร้างความฮือฮาให้กับหลายคนเมื่อประกาศว่า ฮิดดิ้งค์ จะเข้ามาเป็นกุนซือชั่วคราวให้กับพวกเขาไปจนกว่าจะจบฤดูกาล 2008-09 หลังจากที่ไมกี่วันก่อนหน้านั้น "สิงโตน้ำเงินคราม" เพิ่งสั่งเด้ง หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ไปหมาดๆ

 

ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

 

    สิ่งที่ทำให้หลายคนสนใจเกี่ยวกับการแต่งตั้ง ฮิดดิ้งค์ ในตอนนั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องชื่อชั้นของกุนซือชาวดัตช์ แต่ยังเป็นเพราะที่จริงในตอนนั้น ฮิดดิ้งค์ ยังมีสถานะเป็นกุนซือให้กับทีมชาติรัสเซียอยู่ด้วย ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นสุดๆ ด้วยการพาทีมแพ้แค่นัดเดียวจากการลงเล่น 22 เกมในทุกรายการ, พาทีมได้อันดับ 3 ในลีก และนำแชมป์ เอฟเอ คัพ มาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้

    หลังจากจบฤดูกาลนั้น ฮิดดิ้งค์ ก็กลับไปคุม รัสเซีย แค่ทีมเดียวต่อ ขณะที่ในปี 2015 เขาได้กลับมาเป็นกุนซือรักษาการให้กับ เชลซี อีกครั้ง ซึ่งถึงแม้ผลงานจะดูดี แต่ก็ยังดีไม่เท่าเมื่อตอนปี 2009

    – ราฟาเอล เบนิเตซ (เชลซี ปี 2012)
    โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เคยทำผลงานได้โดดเด่นในตอนที่ถูกดันจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ เชลซี มาเป็นกุนซือชั่วคราวเมื่อปี 2012 ด้วยการพาทีมซิวแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2011-12 มาครองได้ ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้รับสัญญาเป็นกุนซือแบบถาวรในเวลาต่อมา แต่สุดท้ายผลงานของเขาในฐานะกุนซือถาวรก็เลวร้ายจนโดนไล่ออกเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ของปีเดียวกัน

 

ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

 

    ทั้งนี้ เชลซี แก้ปัญหาด้วยการใช้งานกุนซือขัดตาทัพอีกครั้ง โดยหนนี้พวกเขาเลือกไว้เนื้อเชื่อใจ ราฟาเอล เบนิเตซ ให้คุมทมจนกระทั่งจบฤดูกาล 2012-13 ซึ่งตอนนั้น เบนิเตซ กำลังว่างงานอยู่ หลังจากถูก อินเตอร์ มิลาน ไล่ออกมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2010 และการตัดสินใจของบอร์ดบริหาร เชลซี ในครั้งนั้นก็ทำให้แฟนบอลบางส่วนไม่พอใจมากๆ เพราะว่า เบนิเตซ เคยคุม ลิเวอร์พูล มาก่อน

    ถึงกระนั้น ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องบอกว่า เบนิเตซ ทำผลงานได้ดีเกินกว่าที่หลายคนคาดกันเอาไว้ โดยเขาพาทีมเก็บยชัยชนะได้ 28 นัดจากการลงเล่นในทุกรายการ 48 เกม รวมถึงพาทีมซิวแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาครองได้ด้วย ขณะที่ในลีก เขลซี ก็ยังเป็นอันดับ 3 ของตารางคะแนนได้

    – จุ๊ปป์ ไฮย์เกส (บาเยิร์น ปี 2017)
    ตลอดเส้นทางอาชีพกุนซือนั้น ไฮย์เกส เคยคุม บาเยิร์น ทั้งในรูปแบบกุนซือถาวรและชั่วคราวรวมแล้วทั้งหมด 4 สมัย โดยภาคสุดท้ายของเขากับ "เสือใต้" เป็นการรับงานในฐานะกุนซือชั่วคราวจนจบฤดูกาล 2017-18 เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2017 เพราะตอนนั้น บาเยิร์น เพิ่งแยกทางกับ คาร์โล อันเชลอตติ ไปหมาดๆ

 

ยอดนักรับจ้าง! 3 กุนซือชั่วคราวผลงานหรูแม้ไม่ได้มาจากทีมงานชุดเก่า

 

    ไฮย์เกส ทำผงานได้น่าประทับใจในการคุม บาเยิร์ค ภาคที่ 4 หลังจากนำทีมเก็บชัยชนะได้ 32 นัดจากทุกรายการ โดยเขานำทีมซิวแชมป์ บุนเดสลีกา มาครองได้ด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศวางมือจากการคุมทีมแบบถาวรไปแบบสวยๆ

   
    – เด็กเกร็ดบอล –

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *