เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว เวลานักฟุตบอลเลือกเบอร์เสื้อนั้นบางครั้งก็จะเป็นการเลือกแบบไม่คิดอะไรนอกจากการยึดจากตำแหน่งการเล่นเป็นหลัก ในขณะที่บางคนเลือกเบอร์เสื้อโดยที่เอาเรื่องโชคลางมาเป็นปัจจัย ส่วนบางรายก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเลือกเพราะความชอบเพียวๆ     เรื่องดังกล่าวทำให้บางครั้งเราจะเห็นนักฟุตบอลอาชีพมีเบอร์เสื้อแบบที่หาได้ยาก อย่างเช่นพวกเบอร์ 99 ที่เห็นกันในระดับหนึ่งในลีกอิตาลี ซึ่งบางคนก็ถึงขั้นใส่เบอร์แบบนั้นไปจนเกือบกระทั่งแขวนสตั๊ดเลยด้วย ซึ่ง จู้ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่กำลังได้รับการจับตามองอย่างมากของวงการฟุตบอลอังกฤษเองก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกเบอร์เสื้อโดยที่มีสาเหตุแบบพิเศษ         เกริ่นก่อนว่า เบลลิงแฮม ใส่เบอร์ 22 มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นแข้งวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งในตอนที่เล่นให้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แล้ว และพอย้ายมาอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาก็ยังเลือกใส่เบอร์ดังกล่าวอยู่ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพราะเขายังเป็นแค่นักเตะวัยเด็ก ทำให้เจ้าตัวไม่ได้รับเบอร์แบบที่เด่นๆ แต่ความจริงแล้วมันมาจากความคิดของตัวเองในเรื่องที่ว่าเขาเป็น "นักเตะสารพัดประโยชน์" ต่างหาก     "ตราลูกโลก" พร่ำบอกกับ เบลลิงแฮม ตั้งแต่สมัยที่เขายังอยู่กับอะคาเดมี่ของทีมแล้วว่าเขาไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับการเล่นในตำแหน่งๆ เดียว เพราะ เบอร์มิงแฮม มองว่าเพชรเม็ดงามรายนี้มีศักยภาพดีพอที่จะเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล, กองกลางประเภทบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ หรือแปลเป็นไทยคือพวกที่วิ่งขึ้นวิ่งลงได้เกือบตลอดทั้งเกม รวมถึงคิดว่าเขายังขึ้นไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกได้ด้วย         ทั้งนี้ ปกติแล้วมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอลมักจะได้สวมเสื้อเบอร์ 4 ส่วนกองกลางแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์นั้นหลักๆ […]


เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

เวลานักฟุตบอลเลือกเบอร์เสื้อนั้นบางครั้งก็จะเป็นการเลือกแบบไม่คิดอะไรนอกจากการยึดจากตำแหน่งการเล่นเป็นหลัก ในขณะที่บางคนเลือกเบอร์เสื้อโดยที่เอาเรื่องโชคลางมาเป็นปัจจัย ส่วนบางรายก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเลือกเพราะความชอบเพียวๆ

    เรื่องดังกล่าวทำให้บางครั้งเราจะเห็นนักฟุตบอลอาชีพมีเบอร์เสื้อแบบที่หาได้ยาก อย่างเช่นพวกเบอร์ 99 ที่เห็นกันในระดับหนึ่งในลีกอิตาลี ซึ่งบางคนก็ถึงขั้นใส่เบอร์แบบนั้นไปจนเกือบกระทั่งแขวนสตั๊ดเลยด้วย ซึ่ง จู้ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่กำลังได้รับการจับตามองอย่างมากของวงการฟุตบอลอังกฤษเองก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกเบอร์เสื้อโดยที่มีสาเหตุแบบพิเศษ

 

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

 

    เกริ่นก่อนว่า เบลลิงแฮม ใส่เบอร์ 22 มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นแข้งวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งในตอนที่เล่นให้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แล้ว และพอย้ายมาอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาก็ยังเลือกใส่เบอร์ดังกล่าวอยู่ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพราะเขายังเป็นแค่นักเตะวัยเด็ก ทำให้เจ้าตัวไม่ได้รับเบอร์แบบที่เด่นๆ แต่ความจริงแล้วมันมาจากความคิดของตัวเองในเรื่องที่ว่าเขาเป็น "นักเตะสารพัดประโยชน์" ต่างหาก

    "ตราลูกโลก" พร่ำบอกกับ เบลลิงแฮม ตั้งแต่สมัยที่เขายังอยู่กับอะคาเดมี่ของทีมแล้วว่าเขาไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับการเล่นในตำแหน่งๆ เดียว เพราะ เบอร์มิงแฮม มองว่าเพชรเม็ดงามรายนี้มีศักยภาพดีพอที่จะเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล, กองกลางประเภทบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ หรือแปลเป็นไทยคือพวกที่วิ่งขึ้นวิ่งลงได้เกือบตลอดทั้งเกม รวมถึงคิดว่าเขายังขึ้นไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกได้ด้วย

 

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

 

    ทั้งนี้ ปกติแล้วมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอลมักจะได้สวมเสื้อเบอร์ 4 ส่วนกองกลางแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์นั้นหลักๆ แล้วมักจะใส่เบอร์ 8 กัน ขณะที่มิดฟิลด์ตัวรุกที่เป็นตัวจริงของทีมก็มักจะได้รับเบอร์ 10 ไปใส่

    ใช่แล้ว เบอร์ 22 ของ เบลลิงแฮม มาจากการเอาเบอร์ 4, 8 และ 10 มารวมกันนั่นเอง

 

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

 

    "ผมยังจำการซ้อมมื้อแรกของเขาได้มาจนถึงทุกวันนี้อยู่เลย" ไมค์ ด็อด์ส หัวหน้าฝ่ายพัฒนาของ เบอร์มิงแฮม ย้อนความหลังถึงอดีตลูกศิษย์คนดัง "ตอนนั้นผมคิดว่า -เอ้อ เขาก็พอได้อยู่นะ ไม่ได้แย่เกินไป- ที่จริงตอนนั้นเขาไม่ได้มีฝีเท้าโดดเด่นมากนัก"

    "กว่าที่จะเริ่มคิดว่า -ไอ้เด็กคนนี้มันมีดีว่ะ- ก็น่าจะเป็นตอนที่เขาอายุ 13 ปีได้ล่ะมั้ง ตอนนั้นเขาอายุ 13 หรือ 14 ปี และเขาก็เหมือนกับวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่อยากสวมเบอร์ 10 กัน ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมนั่งคุยกับเขาว่า -เราคิดว่านายกำลังทำให้ตัวเองเสี่ยงหมดอนาคตเปล่าๆ (หมายถึง เบลลิงแฮม เสี่ยงที่จะล้มเหลวหากคิดแต่ว่าจะเล่นเฉพาะตำแหน่งกองกลางตัวรุก) เราคิดว่านายเล่นได้ทุกบทบาท-"

 

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

 

    "ดังนั้นตอนนั้นเราเลยพูดกับเขาว่า -เราคิดว่านายสามารถเป็นเบอร์ 22 ได้- ตอนนั้นตาของเขาเปล่งเป็นกระกายเลย และเราก็รู้ดีว่าเราทำให้เขาเห็นด้วยกับเราได้! เราบอกไปว่าเราคิดว่าเขาสามารถเป็นตัวโฮลด์บอลแบบหมายเลข 4 ได้, เป็นตัวบ็อกซ์ทูบ็อกซ์อย่างพวกหมายเลข 8 ได้ และเราคิดว่าเขาจะเป็นทั้งตัวทำประตูกับคนสร้างโอกาสทำประตูที่มักจะสวมเบอร์ 10 ได้ด้วย"

    "เขาเชื่อมั่นในเรื่องนั้นตั้งแต่ตอนที่อายุ 13 ปีเป็นต้นมา คุณจะเห็นถึงเรื่องนั้นได้จากเกมการเล่นของเขาเลย ตอนที่เขาประเดิมสนามกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ น่ะ เขาบอกเลยว่า -ผมอยากได้เบอร์ 22- และพอไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ เขาก็ทำแบบนั้นอีกครั้ง ดังนั้นผมเลยหวังว่าเขาจะสร้างเทรนด์เกี่ยวกับเบอร์นี้ได้เวลาที่จะมีการสื่อว่าคนเราสามารถทำได้ทุกอย่าง"

 

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

 

    น่าเสียดายที่ในระดับทีมชาติอังกฤษไม่ว่าจะในชุดเล็กหรือชุดใหญ่ เบลลิงแฮม ก็ยังไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 22 เลย โดยตอนอยู่กับทีมรุ่นเล็กเขาเคยสวมเบอร์ 8 ส่วนในทีมชาติชุดใหญ่นั้นเมื่อไม่นานมานี้เขาได้สวมเบอร์ 23 และมันก็ต้องมารอดูกันว่าในอนาคตเขาจะมีโอกาสได้สวมเบอร์สุดโปรดกับบ้านเกิดหรือไม่

      
    – เด็กเกร็ดบอล –

 

เบลลิงแฮม กับที่มาของเบอร์เสื้ออันแหวกแนว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *