ขับเคี่ยวกันอีกซีซั่น!เมอร์ฟี่ฟันธงมีแค่ลิเวอร์พูล-แมนซิตี้ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีก

ขับเคี่ยวกันอีกซีซั่น!เมอร์ฟี่ฟันธงมีแค่ลิเวอร์พูล-แมนซิตี้ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีก แดนนี่ เมอร์ฟี่ ฟันธง จะยังมีเพียง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลใหม่ พร้อมเชื่อว่าการเสีย ซาดิโอ มาเน่ จะไม่ได้ส่งผลร้ายกับ “หงส์แดง” มากนัก     แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตกองกลางคนดังของ ลิเวอร์พูล แสดงความเชื่อว่าในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 มันก็จะยังมีเพียงแค่ "หงส์แดง" กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นแชมป์กัน     ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่าถือเป็นคู่แข่งเบอร์ 1 ของวงการฟุตบอลอังกฤษในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา จากการที่ทั้งคู่มักจะมีฟอร์มโดยรวมที่โดดเด่นกว่าทีมอื่นๆ และมีเกมรุกที่ดุดันกว่าทีมที่เหลือ โดยซีซั่นก่อนพวกเขาก็ต้องเบียดลุ้นแชมป์ลีกกันจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนจะเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่สมหวังจากการมีคะแนนมากกว่า ลิเวอร์พูล 1 แต้ม     เมอร์ฟี่ เผยว่า "ผมคิดว่ามันจะเหมือนกับฤดูกาลก่อนนิดๆ ผมคิดว่าเราจะได้เห็น 2 ทีมนั้นดวลกันอย่างสูสีอีกครั้ง […]


ขับเคี่ยวกันอีกซีซั่น!เมอร์ฟี่ฟันธงมีแค่ลิเวอร์พูล-แมนซิตี้ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีก

ขับเคี่ยวกันอีกซีซั่น!เมอร์ฟี่ฟันธงมีแค่ลิเวอร์พูล-แมนซิตี้ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีก

แดนนี่ เมอร์ฟี่ ฟันธง จะยังมีเพียง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลใหม่ พร้อมเชื่อว่าการเสีย ซาดิโอ มาเน่ จะไม่ได้ส่งผลร้ายกับ “หงส์แดง” มากนัก

    แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตกองกลางคนดังของ ลิเวอร์พูล แสดงความเชื่อว่าในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 มันก็จะยังมีเพียงแค่ "หงส์แดง" กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นแชมป์กัน

    ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่าถือเป็นคู่แข่งเบอร์ 1 ของวงการฟุตบอลอังกฤษในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา จากการที่ทั้งคู่มักจะมีฟอร์มโดยรวมที่โดดเด่นกว่าทีมอื่นๆ และมีเกมรุกที่ดุดันกว่าทีมที่เหลือ โดยซีซั่นก่อนพวกเขาก็ต้องเบียดลุ้นแชมป์ลีกกันจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนจะเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่สมหวังจากการมีคะแนนมากกว่า ลิเวอร์พูล 1 แต้ม

    เมอร์ฟี่ เผยว่า "ผมคิดว่ามันจะเหมือนกับฤดูกาลก่อนนิดๆ ผมคิดว่าเราจะได้เห็น 2 ทีมนั้นดวลกันอย่างสูสีอีกครั้ง ผมคิดว่าเราจะได้เห็นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมากกว่าเดิม, การเล่นเกมรุกมากขึ้น, การเล่นสร้างสรรค์มากกว่าเดิม เราจะได้เห็นเกมรุกที่เราอยากเห็นจากสไตล์การเล่นของทั้ง 2 ทีม"

    "ผมคิดว่าหลายคนคงฟันธงกันว่าตอนนี้ ซิตี้ เหนือกว่าเพราะพวกเขามี ฮาแลนด์ อยู่ในทีม แน่นอน ผมคิดว่าเขาจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและมีทางเลือกมากกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันการเข้ามาของเขามันก็จะทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแนวทางการเล่น และสไตล์การเล่นที่เคยทำได้เหมือนกัน"

    "สำหรับ ลิเวอร์พูล ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อยในการหาทางใช้งาน นูนเญซ ให้ถูกจุด เพราะเขายังอายุน้อยอยู่ และต้องปรับตัวเข้ากับลีกใหม่ แถมเขาก็ไม่ได้มีสถิติการทำประตูที่สวยหรูเหมือนกับ ฮาแลนด์ ดังนั้นกรณีของเขาเลยอาจจะมีความกังขามากกว่า (หมายถึงไม่ชัวร์ว่าเขาจะทำผลงานได้ดีหรือไม่เมื่อเทียบกับ ฮาแลนด์) แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะส่งผลกระทบกับสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างการเก็บแต้มได้และการเก็บชัยชนะได้ แม้แต่นิดเดียว เพราะความมั่นใจ, ความแข็งแกร่ง และขนาดของขุมกำลังที่ ลิเวอร์พูล มีในตอนนี้มันถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะในด้านแนวรับที่เคยเป็นปัญหาของทีมเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน"

    "ผมคิดว่ามันจะเป็นการสู้ที่สูสีกันอีกครั้งของ 2 ทีมนั้น ผมคิดว่าพวกเขามีโอกาสเท่าๆ กันจนถึงขนาดที่ว่าถ้าจะให้ทอยเหรียญในแต่ละฤดูกาล (เพื่อเดาว่าทีมไหนจะได้แชมป์) ก็คงได้ คำถามใหญ่สำหรับผมคือ เชลซี ภายใต้การบริหารของเจ้าของทีมคนใหม่และการลงทุนต่างๆ จะลดช่องว่างได้รึเปล่า ? ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันอาจจะยังเร็วเกินไปที่พวกเขาจะทำอย่างนั้นได้ นอกจากนี้ มันก็อาจจะยากเกินไปที่พวกเขาจะดึงแข้งใหม่ๆ มาร่วมทีมแล้วทำให้คนเหล่านั้นปรับตัวเข้ากับทีมให้ได้โดยเร็วเพื่อที่จะไล่ตาม ลิเวอร์พูล กับ ซิตี้ ให้ทัน"

    "ผมคิดว่า ท็อตแน่ม ทำการเสริมทัพได้ยอดดเยี่ยม นักเตะอย่าง (อีฟส์) บิสซูม่า ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อคุณต้องพยายามและเล่นทั้ง แชมเปี้ยนส์ ลีก, ฟุตบอลถ้วยในประเทศ และ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลเดียวกันแล้วน่ะ มันก็ถือเป็นงานที่หนักหนาสาหัสมากๆ พวกเขาไม่ได้สัมผัสกับโปรแกรมแบบนี้มาพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นมันเลยน่าสนใจว่าพวกเขาจะรับมือกับการต้องลงเล่นหลายนัดยังไง รวมถึงจะหมุนเวียนขุมกำลังกันได้ดีแค่ไหน"

    "คำถามที่น่าสนใจก็คือทีมที่อยู่ในอันดับล่างๆ พวกเขา (ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้) อย่างพวก ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, เชลซี และ ท็อตแน่ม จะลดช่องว่างได้รึเปล่า ซึ่งลึกๆ แล้วผมคิดว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำได้ ผมคิดว่าเราจะได้เห็น ลิเวอร์พูล กับ ซิตี้ ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง"

    เมอร์ฟี่ เสริมว่าถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะเสีย ซาดิโอ มาเน่ ไปแล้ว แต่มันก็ไม่น่าจะส่งผลเสียมากนัก เพราะทาง "หงส์แดง" มี หลุยส์ ดิอาซ เป็นตัวแทนอยู่แล้ว "ผมเศร้าที่ต้องเห็นเขาย้ายออกไป เพราะผมเห็นหนึ่งในแฟนตัวยงของเขา ผมชอบเขามากๆ ผมคิดว่าเขาเป็นนักเะตที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ลิเวอร์พูล เขามีทั้งความสามารถด้านฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมและจริยธรรมในการทำงานอันน่าทึ่ง"
 
    "ผมคิดว่าทุกคนชอบเห็นนักเตะแบบนั้น เขายังไม่ถึงจุดสูงสุดของตัวเอง และเขาก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลย เขาเป็นนักเตะที่สำคัญของ ลิเวอร์พูล มากๆ แฟนบอลทุกคนที่ผมได้คุยด้วยหรือได้ฟังผ่านทางรายการวิทยุต่างก็อวยพรให้เขาโชคดี และขอบคุณเขาสำหรับสิ่งที่เขาทำได้ สิ่งเหล่านั้นสามารถบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี"

    "แน่นอน ถ้าเลือกได้คุณย่อมอยากรั้งตัวนักเตะที่เก่งๆ ให้อยู่กับทีมไปจนถึงท้ายที่สุดทุกคน แต่ในโลกฟุตบอลมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ถึงกระนั้นผมก็คิดว่าพวกเขา (ลิเวอร์พูล) ดำเนินการได้ฉลาดที่เอา หลุยส์ ดิอาซ มาเป็นตัวแทนของเขาตั้งแต่ตอนที่เขายังอยู่กับทีม ดิอาซ มีคุณสมับติหลายอย่างที่เหมือนกับ มาเน่ ไม่ว่าจะทั้งการที่ไม่ยอมใครง่ายๆ, เรี่ยวแรง, จริยธรรมในการทำงาน และการมีฟุตเวิร์คที่ดี"

    "เขาทำประตูได้หลายลูก แน่อนว่าเขายังต้องทำอะไรอีกเยอะกว่าที่จะไปถึงระดับเดียวกับ มาเน่ ได้ เรารู้ถึงเรื่องนั้นดี แต่การเอาเขามาร่วมทีมในตอนที่ มาเน่ ยังไม่ได้ย้ายไปไหนมันถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ มันเป็นการทำธุรกิจที่ฉลาดสุดๆ เขาทำผลงานได้ดีในทันทีและรู้สึกผ่อนคลายกับสภาพแวดล้อมรอบๆ เขา"

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *