เบ็คแฮม แค่หนึ่งในนั้น! ย้อนดู 5 ไดร์เป่าผมเด็ดของ เฟอร์กูสัน
เบ็คแฮม แค่หนึ่งในนั้น! ย้อนดู 5 ไดร์เป่าผมเด็ดของ เฟอร์กูสัน นอกจากความสำเร็จที่ทำได้มากมายก่ายกองกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสกอตต์ก็คึอการที่เขามักจะตวาดใส่คนในทีมแบบรุนแรง จนเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “ไดร์เป่าผม” ทั้งนี้ ไม่นานมานี้ ปาทริซ เอวร่า อดีตดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยว่า เฟอร์กูสัน เคยด่าคนในทีมอย่างหนักโทษฐานที่ไม่ยอมแจกลายเซ็นให้แฟนๆ ในตอนไปอุ่นเครื่องช่วงปรี-ซีซั่น ขณะที่การตบะแตกที่โด่งดังที่สุดของเขาคงหนีไม่พ้นสงครามกับ เดวิด เบ็คแฮม ที่เขาเคยเผลอเตะสตั๊ดไปโดนคิ้วอีกฝ่าย จนทำให้ทั้งคู่โมโหกันอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม มันยังมีเหตุการณ์เกี่ยวกับไดร์เป่าผมอีกหลายเหตุการณ์ที่ถือว่าเด่นอย่างมาก และถูกพูดถึงกันมากพอตัว ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอตัวอย่างที่เด่นๆ สัก 5 อันกัน – เหยื่อ : เวย์น รูนี่ย์ และ หลุยส์ ซาฮา ในฤดูกาล 2006-07 แมนฯ […]
เบ็คแฮม แค่หนึ่งในนั้น! ย้อนดู 5 ไดร์เป่าผมเด็ดของ เฟอร์กูสัน
นอกจากความสำเร็จที่ทำได้มากมายก่ายกองกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสกอตต์ก็คึอการที่เขามักจะตวาดใส่คนในทีมแบบรุนแรง จนเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “ไดร์เป่าผม”
ทั้งนี้ ไม่นานมานี้ ปาทริซ เอวร่า อดีตดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยว่า เฟอร์กูสัน เคยด่าคนในทีมอย่างหนักโทษฐานที่ไม่ยอมแจกลายเซ็นให้แฟนๆ ในตอนไปอุ่นเครื่องช่วงปรี-ซีซั่น ขณะที่การตบะแตกที่โด่งดังที่สุดของเขาคงหนีไม่พ้นสงครามกับ เดวิด เบ็คแฮม ที่เขาเคยเผลอเตะสตั๊ดไปโดนคิ้วอีกฝ่าย จนทำให้ทั้งคู่โมโหกันอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม มันยังมีเหตุการณ์เกี่ยวกับไดร์เป่าผมอีกหลายเหตุการณ์ที่ถือว่าเด่นอย่างมาก และถูกพูดถึงกันมากพอตัว ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอตัวอย่างที่เด่นๆ สัก 5 อันกัน
– เหยื่อ : เวย์น รูนี่ย์ และ หลุยส์ ซาฮา
ในฤดูกาล 2006-07 แมนฯ ยูไนเต็ด ไปถึงรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ก็จริง แต่ตอนเล่นรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาเคยออกไปแพ้ เซลติก 0-1 ในนัดรองสุดท้าย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 2006 ด้วย ทำให้ตอนนั้นพวกเขายังไม่การันตีการเข้ารอบ
ที่จริงวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะจาก หลุยส์ ซาฮา แต่อดีตแข้งชาวฝรั่งเศสกลับยิงลูกง่ายๆ พลาด แถมยังยิงลูกจุดโทษในช่วงท้ายเกมไม่เข้าด้วย ขณะที่ รูนี่ย์ ก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังเช่นกัน และส่งผลให้ตอนนั้นอนาคตของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากขึ้นไปอีก เพราะตอนนั้น รูนี่ย์ ตกเป็นข่าวว่าอยากได้สัญญาฉบับใหม่ที่ให้ค่าเหนื่อยก้อนโตตามไปด้วย
รูนี่ย์ เผยถึงเรื่องในวันนั้นว่า "มันเป็นไดร์เป่าผมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น เขาไปยืนอยู่หน้า หลุยส์ และตะคอกใส่ แต่ หลุยส์ ไม่ใช่คนเดียวที่โดนด่าหรอกนะ ตอนนั้นผู้จัดการทีมรู้ว่าผมกำลังเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับทีมอยู่ และเขาก็ด่าผมด้วย -พวกนักเตะที่อยากได้เงินมากกว่าเดิม และสัญญาฉบับใหม่นี่นะ ฉันขอบอกเลยว่าถ้าคนในกลุ่มนั้นเล่นได้แค่นี้น่ะ มันก็ไม่สมควรได้อะไรทั้งนั้นแหละโว้ย!-"
– เหยื่อ : พอล อินซ์
อินซ์ อาจจะเคยเป็นกำลังหลักให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเวลาหลายปี แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรอดจากไดร์เป่าผมของ เฟอร์กูสัน ไปได้ ที่จริงแล้วเขาคือหนึ่งในอดีตแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีปัญหากับ เฟอร์กูสัน มากที่สุดด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ครั้งที่เด่นที่สุดคงไม่พ้นปี 1993 ที่ตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง นอริช ซิตี้ อยู่ 3-1 โดยที่วันนั้น อินซ์ พยายามลากบอลในช่วงท้ายเกมแบบเท่ๆ ก่อนที่สุดท้ายจะเสียการครองบอลไป และในจังหวะนั้น นอริช ก็เกือบทำประตูได้ด้วย แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ ซึ่งถึงแม้หลายคนจะมองว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร จากการที่ตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะชนะอยู่แล้ว แต่ เฟอร์กูสัน ไม่ได้คิดแบบนั้น
อินซ์ เผยว่า "ผมคิดว่าวันนั้นเรานำอยู่ 3-0 หรือ 3-1 และมันเข้าสู่นาทีที่ 92 แล้ว ตอนนั้นผมได้บอลตรงกลางสนาม พอผมมองไปข้างหน้าแล้วน่ะผมก็ไม่เห็นใครเลย ดังนั้นผมเลยลากบอลขึ้นไปเอง ผมเอาชนะได้ 1 คน, โชว์ลีลานิดหน่อยแล้วเอาชนะคนที่สองได้ แต่แล้วก็เสียบอลให้คนที่สาม พวกเขาใช้เกมโต้กลับเร็วและเกือบจะทำประตูได้ จากนั้นเสียงนกหวีดยาวก็ดังขึ้น และเราก็แปะมือฉลองกันพร้อมกับพูดว่า -เป็นผลการแข่งขันที่ดีเลย พรรคพวก-"
"หลังจากนั้น เฟอร์กูสัน เข้ามาในห้องแต่งตัว แล้วด่าผมอย่างหนัก เขาบอกว่า -แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกันวะ ? แกไม่ใช่ มาราโดน่า หรือ เปเล่ นะโว้ย- ผมสวนกลับไปเลยว่า -เจ้านาย นี่เจ้านายโกรธอะไรกันเนี่ย- ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า -แกเสียบอลในนาทีที่ 92 และพวกนั้นก็เกือบจะทำประตูได้-"
"ผมตอบไปว่า -แต่พวกเขาทำประตูไม่ได้นะฮะ และเราก็ชนะ 3-1 ด้วย- จากนั้นเขาก็เริ่มมาอยู่ตรงหน้าผม ตอนนั้นผมคิดเลยว่า -ฉันไม่ทนหรอกโว้ย- ดังนั้นผมเลยยืนขึ้น จนกลายเป็นว่าเราเผชิญหน้ากัน จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่ผม น้ำลายของเขากระเด็นเข้าตาผมด้วย"
– เหยื่อ : ทุกคนในทีมนัดแพ้ เวสต์แฮม ปี 2007
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2006-07 ไปครองตั้งแต่ก่อนลงเล่นนัดสุดท้ายแล้ว ทำให้ถึงแม้นัดปิดซีซั่นพวกเขาจะพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการลุ้นแชมป์ อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสัน ไม่พอใจกับสกอร์ที่ออกมาอย่างมาก
รูนี่ย์ ย้อนความหลังว่า "ทีมส่วนใหญ่คงฉลองกันในห้องแต่งตัว, พร้อมเปิดแชมเปญ และถ่ายรูปกัน แต่ไม่ใช่เรา ตอนนั้นเรานั่งจ้องพื้นเหมือนกับเด็ก ผู้จัดการทีมสาดไดร์เป่าผมใส่เรา หลังจากนั้นมันก็ต้องใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าที่ทุกคนจะมีกำลังใจดีขึ้น แล้วกลับมายิ้มแบบคนที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กันอีกครั้ง"
– เหยื่อ : รุด ฟาน นิสเตลรอย
ในปี 2002 แมนฯ ยูไนเต็ด เคยแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ที่สนาม เมน โร้ด ซึ่งหลังจบเกมไปแล้ว ฟาน นิสเตลรอย ก็แลกเสื้อกับนักเตะคนหนึ่งของ แมนฯ ซิตี้ ตามธรรมเนียมที่คนเป็นนักฟุตบอลจะทำกัน น่าเศร้าที่มันไม่ถูกใจ เฟอร์กูสัน อย่างมาก
แกรี่ เนวิลล์ เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า "หลังจบเกมไปแล้ว รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็ได้แลกเสื้อกับนักเตะ ซิตี้ คนหนึ่ง นักเตะคนนั้นของ ซิตี้ เข้ามาขอแลกเสื้อกับเขา แต่เขา (เฟอร์กูสัน) ตวาดใส่ไปว่า -แกจะยกชุดแข่งให้คนอื่นไม่ได้ นั่นเป็นชุดแข่งของฉัน มันเป็นชุดแข่งของสโมสร ไม่ใช่ชุดแข่งของแก แกแค่ได้ใส่มันเป็นการชั่วคราวเท่านั้น มันไม่ใช่ของที่แกจะยกให้คนอื่นได้ง่ายๆ- หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่แลกเสื้อกับเกมภายในประเทศอีกเลย"
– เหยื่อ : คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ถ้าจะบอกว่า โรนัลโด้ ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของ เฟอร์กูสัน ก็คงไม่ผิดนัก เขาใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าที่จะปลุกปั้น โรนัลโด้ ให้เป็นนักเตะระดับโลกได้ ซึ่ง โรนัลโด้ ก็สำนึกบุญคุณของ เฟอร์กูสัน มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ เฟอร์กูสัน ไม่ได้แค่เอาอกเอาใจ โรนัลโด้ เท่านั้น แต่ยังใช้วิธีเข้มงวดในการสั่งสอน โรนัลโด้ ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการที่เขาเคยตวาดใส่ โรนัลโด้ อย่างหนัก จนถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายร้องไห้เลย
กีเยม บาลาเก นักข่าวชื่อดัง กล่าวในหนังสืออัตชีวประวัติของ โรนัลโด้ ว่า "ตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวน่ะ เฟอร์กูสัน เก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ เขาตะโกนขึ้นมาว่า -แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกันวะ ? พยายามที่จะเล่นด้วยตัวเองรึไงกัน ? ถ้าแกทำอย่างนี้น่ะ แกจะไม่มีวันได้เป็นนักฟุตบอลหรอกโว้ย-"
– เด็กเกร็ดบอล –