ลินการ์ดระวัง!9 แข้งอนาคตดับเมื่อย้ายออกจากแมนยู

เจสซี่ ลินการ์ด เติบโตมากับระแบบของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ ทว่าจนถึงตอนนี้ชีวิตในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เส้นทางอาชีพของ ลินการ์ด มาถึงทางแยกระหว่าง ไปต่อ หรือ ทนอยู่ต่อไป

    พอพิจารณารวมถึงคำตำหนิอย่างหนักจากแฟนบอลบนอัฒจันทร์ มันก็ทำให้ดูเหมือนว่ามันอาจจะถึงเวลาที่เขาต้องแยกทางกับทีมแล้วพยายามไปแจ้งเกิดกับที่อื่นแล้ว โดยเป็นที่เชื่อกันว่าเขาสนใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะย้ายทีม และหาทางกลับไปติดทีมชาติอังกฤษแบบต่อเนื่องอีกครั้ง

    อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็มีหลายคนที่ย้ายออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในยุคของ พรีเมียร์ลีก แล้วพบว่าการไปเล่นกับทีมอื่นมันไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเดิมสักเท่าไหร่เหมือนกัน ซึ่งนี่คือตัวอย่างของคนกลุ่มนั้น โดยทาง เดลี่ เมล์ คัดผู้เล่นมาให้ดูกัน 9 ราย

   เฮนริค มาคิทาร์ยาน

    ตอนที่ เฮนริค มาคิทาร์ยาน ย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปอยู่ อาร์เซน่อล โดยเป็นหนึ่งในข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับ อเล็กซิส ซานเชซ ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดี
 
    อย่างไรก็ตาม อีกเพียงหนึ่งปีครึ่งหลังจากนั้น มาคิทาร์ยาน ก็ถูกปล่อยยืมตัวไป โรม่า หลังจากชีวิตในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เต็มไปด้วยความยากลำบาก

     ดาวเตะชาวอาร์เมเนียได้พบว่านักเตะอย่าง เมซุต โอซิล เป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ ก่อนหน้าเขา จนไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงแบบต่อเนื่องในยุคของ อูไน เอเมรี่ ซึ่งโลเลจนชอบเปลี่ยนทีมไปมาได้ และแทบจะไม่สามารถทำผลงานที่น่าประทับใจได้เลย

    ที่จริงแล้วเรื่องเด่นที่สุดที่เขาทำได้ตอนอยู่กับทีมอาจจะเป็นการทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่าง อาร์เมเนีย กับ อาเซอร์ไบจาน ก่อนหน้าเกม ยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศด้วยซ้ำ ถึงอย่างไร อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ดูจะปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในกรุงโรมได้แล้ว

   บิคตอร์ บัลเดซ

    เป็นที่รู้กันว่า ระหว่าง บิลตอร์ บัลเดซ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก เขาเปลี่ยนจากสถานะผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ บาร์เซโลน่า มาเป็น ตัวเลือกสำรองของ ดาบิด เด เคอา และยังผิดใจกับ หลุยส์ ฟาน กัล ในช่วงท้ายๆ ที่เขาอยู่กับทีม

    ถึงกระนั้น การย้ายออกไปอยู่กับ สตองดาร์ด ลีแอช แบบยืมตัว นั่นหมายความว่าชีวิตกับ ยูไนเต็ด ได้หมดหลง และในฐานะที่ได้แชมป์บอลถ้วย เบลเยี่ยม ก็เป็นเรื่องดี ๆ กับช่วงเวลาที่เหลือในอาชีพ

    จากนั้น เขาก็ย้ายไปอยู่กับ มิดเดิลสโบรส์ ซึ่งมันยิ่งแย่หนักไปกว่าเดิม เดอะ โบโร่ ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดบนเวที พรีเมียร์ลีก และ บัลเดซ เองก็ก่อความผิดพลาดตลอดทั้งซีซั่น

    เส้นทางอาชีพของ เจ้าของแชมป์ ลาลีกา, แชมเปี้ยนส์ ลีก และฟุตบอลโลก จบลงด้วยการตกชั้นเป็นครั้งแรกในชีวิต 6 เดือนที่เป็นนักเตะไร้สังกัดจากนั้นเขาก็ประกาศแขวนถุงมือก่อนกำหนด

   แอชลี่ย์ เฟลทเชอร์

    เส้นทางอาชีพของ แอชลี่ย์ เฟลทเชอร์ พุ่งขึ้นมาก เขาก้าวขึ้นเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรก ตอนที่ยืมตัวไปอยู่กับ บาร์นสลี่ย์ โดยที่ทำประตูได้ทันทีในนัดแรกที่ลงสนาม รวมถึง คว้าแชมป์ฟุตบอลลีก โทรฟี่ และเลื่อนชั้นขึ้นจาก ลีกวัน 

    ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอเพื่อต่อสัญญาให้ เฟลทเชอร์ โดยมี ลีดส์ พยายามที่จะคว้าตัวไปแบบฟรี ๆ แต่ เฟลทเชอร์ เลือกปฏิเสธแล้วจรดปากกาเซ็นสัญญากับ เวสต์แฮม เป็นเวลา 4 ปี

    ตลอดเวลากับ เดอะ แฮมเมอร์ส เฟลทเชอร์ ไม่สามารถพังตาข่ายได้เลยสักลูกเดียว จากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่กับ มิดเดิลสโบรส์ ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ และที่นี่เขาก็ยังเจอปัญหาเรื่องทำประตูอีกรอบ

    มกราคม ปี 2018 เราได้เห็นเขาย้ายแบบยืมตัวไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ และมีส่วนร่วมอย่างมากในสารคดี Sunderland Til I Die ซีซั่นแรกทาง เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการทำประตูของตัวเอง และก่อนหน้าที่ลีกจะโดนสั่งพักการแข่งขันนั้น แข้งวัย 24 ปี กำลังทำผลงานได้น่าประทับใจกับ โบโร่ ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ

   ริโอ เฟอร์ดินานด์

    ริโอ เฟอร์ดินานด์ เจอช่วงเวลายากลำบากในยุคของ เดวิด มอยส์ และเขาก็หมดสัญญากับ ยูไนเต็ด แต่ดาวเตะจอมเก๋ามั่นใจว่าเขายังไปต่อได้ คิดว่ายังไงซะเขาก็เป็นกองหลังระดับตำนานอยู่แล้ว

    เขาเขียนในบล็อกส่วนตัวว่า "ผมรู้สีกฟิตและมีสุขภาพดี ผมพร้อมสำหรับความท้าทายใหม่ๆ และตั้งตารอที่จะได้รู้ว่าอนาคตของผมจะเป็นยังไง"

     จากนั้น คิวพีอาร์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาก็ยื่นข้อเสนอให้เขา เฟอร์ดินานด์ ได้เล่นให้ทีมแค่ 12 นัดในทุกรายการ โดยที่เขามีสภาพเหมือนกับว่าไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะเล่นในระดับสูงได้อีกต่อไปแล้ว

    เขาโดนปล่อยออกจากทีม และแขวนสตั๊ดในเดือนพฤษภาคม ปี 2015 หรือก็คือเขายุติอาชีพการค้าแข้งหลังแยกทางกับ ยูไนเต็ด ได้เพียง 12 เดือนเท่านั้น

   เนมานย่า วิดิช

    เหมือนกับ เฟอร์ดินานด์ ไม่มีผิด เนมานย่า วิดิช เป็นหนึ่งในเหยื่อของ เดวิด มอยส์ และตอนจบฤดูกาล เขาก็ย้ายออกจากทีมไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน 

    ช่วงสิ้นเดือนกันยายน หลังจากไปเล่นที่ลีก เซเรีย อา วิดิช สร้างความผิดพลาด ปล่อยให้ ฟรังโก้ บาซเกซ เข้าไปทำประตูให้ ปาแลร์โม่ ตีเสมอ 1-1 และตอนที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ คุมมากุมบังเหียน เนรัซซูร์รี่ วิดิช ก็ถูกดรอปออกจากทีมชุดตัวจริง

    ขณะที่เขาทำงานเพื่อคืนทัพตัวจริง วิดิช ลงเล่นไปแค่ 23 นัดในฤดูกาล 2014/15 และจากนั้นก็ไม่มีซีซั่นต่อมาในถิ่น จูเซปเป้ เมอัซซ่า

    เดือนมกราคม วิดิช ตัดสินใจแขวนสตั๊ด หลังจากสัญญากับ อินเตอร์ ถูกยกเลิกจากการยินยอมร่วมกัน

   ราเวล มอร์ริสัน

    เป็นเหมือนการเตือนเกี่ยวกับ ราเวล มอร์ริสัน เป็นอย่างดี การที่ท้ายที่สุดแล้วเขาได้ประเดิมสนามกับ เวสต์แฮม มันทำให้ดูเหมือนว่าที่เขาตัดสินใจได้ถูกต้องที่ออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    มอร์ริสัน ถูกโชคชะตากำหนดแล้วว่าต้องเป็นแข้งพรสวรรค์สูงที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมทิ้งไป และหลังจากไปเล่นแบบยืมตัวกับ เบอร์มิงแฮม จนทำให้มีประสบการณ์ในระดับหนึ่งแล้วนั้น เขาก็เริ่มฉายแววว่าจะแจ้งเกิดได้ใน พรีเมียร์ลีก

    ประตูสุดยอดที่โซโล่เดี่ยวยิงใส่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ มอร์ริสัน เลี้ยงครึ่งสนามก่อนที่จะยิงผ่านผู้รักษาประตู ซึ่งลูกนี้ก็ยังอยู่ในความทรงจำหลาย ๆ คน แต่บางอย่างก็เปลี่ยนไป เขาถูกปล่อยไปให้ คิวพีอาร์ และ คาร์ดิฟฟ์ ยืมตัว ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ลาซิโอ เขาแทบจะไม่ได้ลงเล่นเลยแล้วก็ข้ามทวีปไปเล่นที่ประเทศเม็กซิโก

    ขณะที่เขาทำผลงานประทับใจที่ ออสเตซุนด์ เมื่อซีซั่นก่อน และได้ย้ายกลับมาพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และไปอยู่กับ มิดเดิลสโบรส์ แบบยืมตัว ซึ่งเขาก็แทบไม่ได้ลงสนามเลย ทั้งหมดไม่ที่เหมาสมกับเขาเลย

   ดไวท์ ยอร์ค 

    ดไวท์ ยอร์ค เป็นหนึ่งในคู่หูกองหน้าที่อันตรายมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ก็ตอนที่เขาจับคู่จับ แอนดี้ โคล ดังนั้นมันคงจะเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นเขาประสานงานกับคู่หูเก่าอีกครั้งในทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

    เดิมที ยอร์ค ก็ทำผลงานได้ประทับใจ เมื่อซัดได้ 13 ประตู แต่ไม่นาน แกรม ซูเนสส์ แกรม ซูเนสส์ ก็ผิดใจกับเขา โดยตามรายงานบอกว่า ซูเนสส์ กล่าวโทษ ยอร์ค ที่ทำงานหนักน้อยเกินไป พวกเขาถึงขั้นพุ่งสกัดใส่กันแบบหนักหน่วงในตอนที่ดวลกันแบบ 6 คนต่อ 6 คนด้วยซ้ำ

    ยอร์ค ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่ เบอร์มิงแฮม และก็ถูกปล่อยออกไปหลังอยู่กับทีมได้แค่ 8 เดือน โดยลงสนามเพียง 13 เกม

    จากนั้น เขาก็ไปอยู่กับ ซิดนี่ย์ และ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2009

   ลี ชาร์ป 

     หลายปีก่อนหน้าที่เขาจะไปโผล่ในรายการเรียลลิตี้โชว์ Love Island นั้น ลี ชาร์ป เป็นหนึ่งในนักเตะชุดที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นักเตะในกลุ่ม คลาส ออฟ 92 อาจจะทำให้เขาเป็นตัวจริงน้อยลง แต่ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ ยูไนเต็ด นั้น เขาก็ยังได้เล่นในลีกไป 31 นัดจากทั้งหมด 38 เกม

    เขายังได้ลงเล่นเยอะแบบนั้นทั้งที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ว่าเป็นพวกชอบไปออกงานปาร์ตี้ อย่างเช่นการที่ เฟอร์กี้ โผล่ไปทำลายงานสังสรรค์ที่ ชาร์ป กับ ไรอัน กิ๊กส์ ไปร่วมเฮฮาด้วย เป็นต้น (ในวันนั้น กิ๊กส์ เป็นคนไปเปิดประตูจนเจอผู้จัดการทีมของเขา ในสภาพที่ กิ๊กส์ ยังถือขวดเบียร์เอาไว้อยู่ด้วย) ถือได้ว่าเขาเป็นตำนานอย่างแท้จริง

    การย้ายไปอยู่ ลีดส์ จริง ๆ ควรจะเป็นประโยชน์ต่อเขา แต่เมื่อผู้จัดการทีมที่ดึงเขามาอย่าง โฮเวิร์ด วิลกินสัน โดนปลดในเดือนต่อมา ชาร์ป ลงเล่นไปเพียง 26 นัดในฤดูกาล 1996/97 ก่อนที่จะปิดฉากตัวเองในซีซั่นต่อมาด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

    ชาร์ป ย้ายไปอยู่กับ ซามพ์โดเรีย แบบยืมตัว จากนั้นก็มาช่วยให้ แบร็ดฟอร์ด ซิตี้ เลื่อนชั้น เส้นทางอาชีพของเขาล้มเหลว เมื่อโดนยกเลิกสัญญาโดย กริมสบี้ ตอนซัมเมอร์ ปี 2002 แล้วก็ย้ายไปอยู่กับ กรินดาวิค ในลีกไอซ์แลนด์ และไปใช้ชีวิตกับ การ์ฟอร์ธ ทาวน์ ทางตะวันตกของ ยอร์คเชียร์

    ชาร์ป เป็นที่รู้จักในฐานะแขกรับเชิญทางรายการโชว์ เซเลบริตี้ ไอทีวี ช่วงกลางยุค 2000s นอกจากนี้ ยังไปปรากฏตัวทาง Celebrity Wrestling, Celebrity Love Island, Dancing on Ice and Ant และ Dec's Saturday Night Takeaway อีกด้วย

    HOSSALONSO

   Cr. ภาพจาก Daily Mail