ไม่ง่าย!แฉนิวคาสเซิ่ลอาจอดทุ่มเงินก้อนโตช็อปแข้งดัง

ไม่ง่าย!แฉนิวคาสเซิ่ลอาจอดทุ่มเงินก้อนโตช็อปแข้งดัง เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษ ระบุ วงในของทั้ง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า บอกเองว่า นิวคาสเซิ่ล จำเป็นต้องทำตามกฎเกี่ยวกับขอบเขตการใช้เงิน ส่งผลให้พวกเขาอาจจะไม่สามารถทุ่มเงินก้อนโตเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นในทันทีได้     แหล่งข่าวจาก พรีเมียร์ลีก และสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยืนยันว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จำเป็นต้องทำตามกฎด้านขีดจำกัดการใช้เงินในการเสริมทัพ และสัญญาด้านการตลาดของทีมก็อาจจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียกำลังคิดที่จะเทคโอเวอร์ทีม ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี     ช่วงหลายวันที่ผ่านมามีกระแสชข่าวลือว่า นิวคาสเซิ่ล เตรียมที่จะมีการเปลี่ยนเจ้าของ ภายหลัง ซาอุดิ พับบลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียที่ได้รับการสนับสนุนจาก โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย พยายามที่จะฮุบทีมให้ได้จนพร้อมให้ข้เสนอสูงถึง 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,000 ล้านบาท)     อย่างไรก็ตาม การพยายามเทคโอเวอร์ทีมของกลุ่มทุนจากชาติในย่านตะวันออกกลางก็ถูกคัดค้านจากหลายฝ่าย […]


ไม่ง่าย!แฉนิวคาสเซิ่ลอาจอดทุ่มเงินก้อนโตช็อปแข้งดัง

ไม่ง่าย!แฉนิวคาสเซิ่ลอาจอดทุ่มเงินก้อนโตช็อปแข้งดัง

เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษ ระบุ วงในของทั้ง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า บอกเองว่า นิวคาสเซิ่ล จำเป็นต้องทำตามกฎเกี่ยวกับขอบเขตการใช้เงิน ส่งผลให้พวกเขาอาจจะไม่สามารถทุ่มเงินก้อนโตเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นในทันทีได้

    แหล่งข่าวจาก พรีเมียร์ลีก และสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยืนยันว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จำเป็นต้องทำตามกฎด้านขีดจำกัดการใช้เงินในการเสริมทัพ และสัญญาด้านการตลาดของทีมก็อาจจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียกำลังคิดที่จะเทคโอเวอร์ทีม ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี

    ช่วงหลายวันที่ผ่านมามีกระแสชข่าวลือว่า นิวคาสเซิ่ล เตรียมที่จะมีการเปลี่ยนเจ้าของ ภายหลัง ซาอุดิ พับบลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียที่ได้รับการสนับสนุนจาก โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย พยายามที่จะฮุบทีมให้ได้จนพร้อมให้ข้เสนอสูงถึง 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,000 ล้านบาท)

    อย่างไรก็ตาม การพยายามเทคโอเวอร์ทีมของกลุ่มทุนจากชาติในย่านตะวันออกกลางก็ถูกคัดค้านจากหลายฝ่าย อย่างเช่น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (องค์การนิรโทษกรรมสากล) หลังจากที่ราชวงศ์ของซาอุดิอาระเบียเคยมีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายหน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการตั้งข้อสงสัยว่ามกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน ทรงสั่งให้สังหาร จามาล คาชูจกิ นักข่าวรายหนึ่งที่มักจะวิจารณ์รัฐบาลซาอุดิอาระเบียอย่างหนัก

    สำหรับประเด็นที่จะมีการพิจารณาสัญญาด้านการตลาดนั้น เป็นการทำเพื่อที่ นิวคาสเซิ่ล จะได้ไม่สามารถปลอมแปลงบัญชี และเอาเงินจากสัญญาด้านสปอนเซอร์ที่กุขึ้นมาไปใช้ในการทำทีมนอกเหนือจากขอบเขตการใช้เงินที่แท้จริงได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาวงการฟุตบอลยุโรปพยายามจะทำให้แต่ละทีมไม่ใช้เงินเกินตัวจนเกิดภาวะล้มละลาย หรือก็คือกฎควบคุมการเงิน (ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ หรือ เอฟเอฟพี) โดยของ พรีเมียร์ลีก จำกัดให้แต่ละทีมห้ามขาดทุนเกิน 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,200 ล้านบาท) ในช่วงระยะเวลา 3 ปี ส่วนของ ยูฟ่า อยู่ที่ห้ามเกิน 26 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,040 ล้านบาท) ในช่วงเวลา 3 ปี

    เดลี่ เมล อ้างว่าโฆษกของ พรีเมียร์ลีก บอกกับพวกเขาว่า "เราไม่คิดที่จะผ่อนปรนกฎให้พวกเขาแต่อย่างใด" ส่วนกระบอกเสียงของ ยูฟ่า บอกว่า "หลักสำคัญของ เอฟเอฟพี จะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง"

    ด้าน แดเนี่ยล กีย์ ทนายความด้านกีฬาชื่อดัง แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า "ถึงแม้ นิวคาสเซิ่ล คิดที่จะมีส่วนร่วมกับรายการของ ยูฟ่า แต่พวกเขาก็ต้องทำตามกฎด้านควบคุมการเงินของ ยูฟ่า ที่เคร่งครัดมากกว่า (เมื่อเทียบกับของ พรีเมียร์ลีก) และต้องขาดทุนสูงสุดได้เพียง 26 ล้านปอนด์ตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปี"

    ทั้งนี้ ในปีงบประมาณของฤดูกาล 2017-18 นิวคาสเซิ่ล ทำกำไรได้เพียงนิดหน่อย และคาดกันว่าปีงบประมาณของซีซั่น 2018-19 ที่กำลังรอการประกาศอย่างเป็นทางการนั้น ทีมดังแห่งถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ก็จะทำกำไรได้น้อยกว่าเดิมอีก ซึ่งหากจะต้องทำตามกฎควบคุมด้านการเงินในการเสริมทัพไปด้วยแล้วนั้น มันก็ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ในแต่ละฤดูกาล พีไอเอฟ จะใช้เงินในการเสริมทัพได้สูงสุดเพียงหลักหลายสิบล้านปอนด์ ไม่สามารถถึงระดับหลายร้อนล้านปอนด์ หรือพันล้านปอนด์ได้

    ถึงกระนั้น คนที่รู้ถึงแผนงานของ พีไอเอฟ เป็นอย่างดี ก็ได้รับการแจ้งแบบคร่าวๆ แล้วว่า พีไอเอฟ ไม่มีความคิดที่จะทุ่มเงินก้อนโตไปกับการเสริมทัพตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยพวกเขาตั้งใจที่จะใช้เงินส่วนใหญ่กับด้านอะคาเดมี่, ระบบแมวมอง, การพัฒนาเยาวชน และโปรแกรมการหาแข้งอายุน้อยที่มีพรสวรรค์สูงมากกว่า ซึ่งกฎควบคุมการเงินมันไม่ได้ครอบคลุมขอบเขตการใช้เงินมาถึงส่วนนี้แต่อย่างใด

    อย่างไรก็ดี หลายคนมองว่าการที่จะทำให้ทีมดีขึ้นในทันทีเพื่อที่จะได้มีลุ้นแชมป์อย่างรวดเร็ว และบรรดาเจ้าของทีมใจร้อนจนรอให้ค่อยๆ พัฒนาในระยะยาวไม่ไหวแล้วนั้น มันก็จำเป็นต้องมีการทุ่มเงินก้อนโตเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น เหมือนที่เกิดขึ้นกับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *