เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะเรียกความมั่นใจกลับคืนมาหลังเพิ่งแพ้ยับ วัตฟอร์ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยพวกเขาต้องยกพลเยือน เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในวันอังคารที่ 3 มีนาคม     เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม คงต้องกระตุ้นลูกทีมให้กลับมามีสมาธิในแมตช์สำคัญนี้ เพราะมันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น แต่กระนั้นเจ้าตัวก็คงไม่ได้จัดชุดใหญ่ลงเล่นเต็มสูบ และน่าจะให้โอกาสดาวรุ่งผสมผสานกับแข้งชุดใหญ่ ในการเยือนรัง "สิงห์บลูส์"     ต้องยอมรับว่าการไปเยือน เชลซี ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งสำคัญก็คือ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ เพราะจะเป็นการเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมา และยังเป็นการนำทีมลุ้นสร้างประวัติศาสตร์สโมสรในการคว้า 3 แชมป์ในซีซั่นนี้ด้วย 1. แดนกลางต้องแน่น     การขาดหายไปของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมคนสำคัญ […]


เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะเรียกความมั่นใจกลับคืนมาหลังเพิ่งแพ้ยับ วัตฟอร์ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยพวกเขาต้องยกพลเยือน เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในวันอังคารที่ 3 มีนาคม

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม คงต้องกระตุ้นลูกทีมให้กลับมามีสมาธิในแมตช์สำคัญนี้ เพราะมันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น แต่กระนั้นเจ้าตัวก็คงไม่ได้จัดชุดใหญ่ลงเล่นเต็มสูบ และน่าจะให้โอกาสดาวรุ่งผสมผสานกับแข้งชุดใหญ่ ในการเยือนรัง "สิงห์บลูส์"

    ต้องยอมรับว่าการไปเยือน เชลซี ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งสำคัญก็คือ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ เพราะจะเป็นการเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมา และยังเป็นการนำทีมลุ้นสร้างประวัติศาสตร์สโมสรในการคว้า 3 แชมป์ในซีซั่นนี้ด้วย

1. แดนกลางต้องแน่น
    การขาดหายไปของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมคนสำคัญ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล มีปัญหาในแดนกลางเมื่อไม่มี "เฮนโด้" โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่แพ้ วัตฟอร์ด ยับเยิน แผงมิดฟิลด์ของ "หงส์แดง" ไม่สามารถสร้างสรรค์เกม หรือกดดัน "แตนอาละวาด" ได้เลย

 

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

 

    อย่างไรก็ตามในเกมนี้ เจอร์ คล็อปป์ น่าจะต้องจัดแผงมิดฟิลด์ที่ไว้วางใจได้มากที่สุดลงสนาม  ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะส่ง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ฟาบินโญ่ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กระนั้น นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช อาจจะเลือกใช้งาน เคอร์ติส โจนส์ แข้งดาวรุ่งที่ทำผลงานได้ดีในการเล่นฟุตบอลน็อกเอาต์รายการนี้

    น่าเสียดายที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ปีกร่างจิ๋ว ไม่สามารถลงสนามในแมตช์นี้ได้ เนื่องจากนักเตะต้องเดินทางร่วมกับทัพ "หงส์แดงจูเนียร์" รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เพื่อไปปะทะแข้งกับ "เหยี่ยวลิสบอน" เบนฟิก้า ในศึกยูฟ่า ยูธ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันอังคารที่ 3 มีนาคม

 

2. ฟื้นสภาพหลังโดนแตนต่อย
    ต้องยอมรับว่าผลการแข่งขันแมตช์ที่ไปเยือน วัตฟอร์ด พร้อมกับได้รับผลการแข่งขันที่สุดช้ำในพรีเมียร์ลีก นัดแรกของ ลิเวอร์พูล อาจจะทำให้พวกเขามีอาการเป๋ไปบ้าง เพราะบอกได้เลยว่าเกมดังกล่าว ลูกทีมของคล็อปป์ แพ้แบบหมดรูปชนิดที่สู้ไม่ได้เลย

 

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

 

    ส่วนในเกมพบ เชลซี แม้จะไม่ใช่เกมพรีเมียร์ลีก แต่ก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะฟุตบอลเอฟเอ คัพ ถือเป็นถ้วยที่มีความสำคัญพอสมควร และหาก ลิเวอร์พูล กลับถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยผลการแข่งขันที่น่าพึ่งพอใจ แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบในเชิงบวกในเรื่องขวัญกำลังใจของพวกเขา

    ฉะนั้นแมตช์นี้ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของทัพ "เดอะ เร้ดส์" กลับคืนมาอีกครั้ง หลังมีอาการมึนจากเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หากพวกเขาโดนตอกย้ำแผลเดิมอีกรอบ งานนี้อาจส่งผลกระทบต่อฟอร์มอย่างต่อเนื่องก็ได้

 

3. โกเมซ-มิลเลอร์ ฟิตแล้ว
    ถือว่าเป็นข่าวดีพอสมควรกับการที่ คล็อปป์ ยืนยันว่า โจ โกเมซ กับ เจมส์ มิลเนอร์ หายเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และแน่นอนว่านี่ถือเป็นสองขุมกำลังสำคัญที่นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องพกพาไปยังกรุงลอนดอน เพราะพวกเขาน่าจะช่วยสร้างความแตกต่างในเกมนี้ได้

    เห็นได้ชัดเจนว่าการที่ขาด "เฮนโด้" ไป แดนกลางของ ลิเวอร์พูล ขาดตัวทะลุทะลวง และลูกหนัก ขณะที่ในเกมรับเมื่อไม่มี โกเมซ จับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลายเป็นว่า "หงส์แดง" มีแนวรับอ่อนยวบไปโดยปริยาย เพราะ เดยัน ลอฟเรน เล่นไม่เข้าขากับ ปราการหลังเลือดดัตช์ เลย แถมยังเป็นบ่อน้ำมันชั้นดีให้คู่แข่งเจาะอีกต่างหาก

 

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

 

    ขณะเดียวกันการที่ มิลเนอร์ สามารถลงสนามได้ในเกมนี้ จะทำให้ "หงส์แดง" น่าจะเบาใจได้ในเรื่องของประสบการณ์ เพราะนักเตะรายนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ และสามารถที่จะรับมือกับแรงกดดันของเจ้าบ้านได้เป็นอย่างดี รวมทั้งจะคอยช่วยประคับประคองแข้งดาวรุ่ง ที่น่าจะได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ ให้ลงสนาม

 

4.  มินามิโนะ ได้โอกาสอีกครั้ง
    นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาคูมิ มินามิโนะ ยังไม่สามารถผลิตฟอร์มเก่งเหมือนสมัยเล่นให้กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ได้เลย แน่นอนว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักเตะยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับสไตล์การเล่นในประเทศอังกฤษ

    ตอนนี้ จอมทัพทีมชาติญี่ปุ่น ยังไม่สามารถยิงประตู และทำแอสซิสต์ให้กับ "หงส์แดง" ได้เลย แต่เชื่อว่า คล็อปป์ ยังคงไว้วางใจให้นักเตะรายนี้ได้ลงเล่นตัวจริง และนี่ถือเป็นโอกาสทองสำหรับ มินามิโนะ ที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของกุนซือชาวเยอรมัน

 

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

 

    ขณะเดียวกันในแผงแนวรุก มีความเป็นไปได้สูงที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ จะได้พักร่างกายหลังจากกรำศึกหนักมาหลายเกมติดต่อกัน และเป็นโอกาสทองของ ดิว็อค โอริกี้ ที่จะได้พิสูจน์ศักยภาพการเป็นยอดดาวยิงของเขาอีกครั้ง

    ต้องยอมรับว่า โอริกี้ ถือเป็นผู้เล่นสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในถ้วยน็อกเอาต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แม้ว่า ดาวเตะชาวเบลเยียม อาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มเก่งก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริง เจ้าตัวก็ไม่เคยทำให้ คล็อปป์ ต้องผิดหวัง

 

5. เส้นทางลุ้น 3 แชมป์
    ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ต้องกดดันเรื่องการทำสถิติไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ซะที หลังจากที่แพ้ วัตฟอร์ด ทำให้พวกเขาหยุดเส้นไม่พ่ายใครในพรีเมียร์ลีกมายาวนานเอาไว้เพียงแค่ 44 เกมเท่านั้น และหมดสิทธิ์ทำลายสถิติของ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล จำนวน 49 เกม

 

เรียกขวัญกำลังใจ! วิเคราะห์ 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เยือน เชลซี

 

    อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรนั่นก็คือคว้าทริปเบิลแชมป์ เพราะพวกเขายังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จทั้งในลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้ว่ารายการหลังอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย เนื่องจากเกมแรกออกไปแพ้ แอตเลติโก มาดริด 0-1 ก็ตาม

    กระนั้นการเยือน "สิงโตน้ำเงินคราม" ถือเป็นแมตช์ที่มีความสำคัญในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้กับเหล่าขุนพลลิเวอร์พูลแล้ว ยังเป็นแรงกระตุ้นให้กับพวกเขาในการลุยแมตช์ที่เหลืออยู่ในทุกรายการของซีซั่นนี้ด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *